 |
คำแนะนำ ควรทำขณะที่เครื่องยนต์ไม่ร้อน
ทำการเคลียร์ เปิดทางสะดวก ถอดชิ้นส่วนบางตัวออก เพื่อให้เข้าถึงตัวไดชาร์จ หรืออัลเตอร์เนเตอร์ โดย
- ถอดกระบังลมหม้อน้ำ
- ถอดพัดลมและฟรีปั๊ม
- ถอดตัวเรือนไส้กรองอากาศ
- ถอดท่ออากาศระบายความร้อนของไดชาร์จ
- ถอดสายพาน
|
 |
ถอดสายกราวด์ของแบตเตอรี่ (ขั้วลบ) เพื่อป้องกันไฟชอร์ต
|
 |
ถอดโบลต์ที่ยึดตัวไดชาร์จ ด้วยประแจเบอร์ #16 ม.ม.
- มีโบลต์ 2 ตัว ยึดไดชาร์จ ตัวบนอยู่กับลูกรอก ถอดออกมาทั้งลูกรอก
- โบลต์ตัวล่าง #16 ม.ม. ให้ถอดเอาตัวโบลต์ออกมา มีแหวนรอง 1 ตัว
|
 |
เมื่อถอดโบลต์แล้ว ดึงตัวไดชาร์จให้ขยับออกมาจากฐาน ตอนนี้ยังติดสายไฟออกมาไม่ได้
|
 |
เปิดยางครอบขั้วไฟฟ้าหลังไดชาร์จ จะเห็นสายไฟ 2 เส้น เส้นใหญ่กับเส้นเล็ก
|
 |
ขั้ว B+ น๊อตตัวใหญ่ #13 และขั้ว D+ น๊อตตัวเล็ก #10 ใช้ประแจบ๊อกถอดน๊อตทั้งสองตัวนี้ ถอดแล้วอย่าเอาไปปนกับน๊อตอื่น มันเป็นน๊อตพิเศษที่ใช้ขันขั้วไดชาร์จ มันให้กระแสไฟผ่านได้ดีกว่าน๊อตทั่วไป
สังเกตดูที่สายไฟและขั้วไฟ มีสีเขียวของออกไซด์ เป็นสัญญาณว่ารอยต่อไม่ค่อยสมบูรณ์ การเดินของกระแสไฟอาจไม่สะดวกเท่าที่ควร
|
 |
น๊อตที่ถอดออกมามีขี้เกลือขึ้น ต้องทำความสะอาด
|
 |
เอาหางปลาขั้วสายไฟออก แล้วเอาสายไฟและครอบยางออก
|
 |
ยกตัวไดชาร์จออกมาวางในที่ปลอดภัย
|
 |
ในห้องเครื่องโล่งแล้ว เราควรถือโอกาสตรวจชิ้นส่วนต่างๆ ที่เข้าถึงยาก
|
 |
สายไฟไดชาร์จเส้นใหญ่ สภาพตามที่เห็น ฉนวนเสื่อมผุแตก หลุดล่อนออก เห็นทองแดงเป็นออกไซด์สีเขียว
|
 |
พอขยับสายแรงหน่อย มันขยายลุกลาม ฉนวนหลุดเพิ่มขึ้น
สายเส้นนี้สำคัญกระแสไฟผ่านมาก เป็นงานที่ต้องซ่อมด้วย แต่จะยังไม่ลงรายละเอียด ไว้โอกาสต่อไปจึงจะเขียน
|
 |
ต่อไปเรามาดูที่ตัวไดชาร์จ
|
 |
ด้านหน้ามีพุลเล่ย์ร่องสายพาน
ด้านหลังมีครอบและท่อกลมนั้นเพื่อรับอากาศเข้าระบายความร้อน
|
 |
ที่ตัวไดชาร์จ (อัลเตอร์เนเตอร์) ขณะที่มันทำงานเคยใช้เลเซอร์ยิงดู มันร้อนมาก ถึง 99.8 องศา C
การที่มีท่อรับอากาศเข้ามาระบายความร้อนจึงจำเป็น
|
 |
แผ่นแนมเพลตบอกรุ่น 140
แรงดันออก 14 โวลต์ (14V)
กระแส 45 - 140 แอมแปร์ (45 - 140 A)
ผลิตเมื่อสัปดาห์ที่ 22 ปี 1995
|
 |
แผ่นแนมเพลตบอกยี่ห้อ BOSCH ผลิตใน เกรสบริเตน หรืออังกฤษ
|
 |
ความจริงผลิตในประเทศไทย มีสติกเกอร์ติดไว้ชัดเจน
โดย นิปปอนเดนโซ ประเทศไทย บ้านเราเอง ... น๊อ
|
 |
ขั้นต่อไป ถอดฉนวนครอบขั้วไฟออก (B+ และ D+)
|
 |
ตรงขั้ว D+ มีน๊อตตัวหนึ่ง ที่แคบ ให้ใช้คีมหมุนขยับน๊อตให้เคลื่อนตัวเล็กน้อยก่อน
|
 |
หลังจากนั้นใช้ไขควงเขี่ยให้น๊อตหมุนออกมา
|
 |
ถอดพลาสติกฝาครอบสีดำ ที่เป็นท่อระบายอากาศ มีสกรูหัวแฉกที่ที่ด้านข้าง 1 ตัว
|
 |
และมีน๊อตแบบมีปีกยึดอีก 2 ตัว #8 ม.ม. ไขน๊อตออก แล้วเอาฝาครอบออก
|
 |
ถอดฝาครอบออกแล้ว เห็นชิ้นส่วนภายใน มีฝุ่นจับอยู่
|
 |
ใช้ลมเป่าฝุ่นออก ใช้ผ้าชุบน้ำหมาดๆ เช็ดโดยทั่วไปเท่าที่เช็ดได้
|
 |
ถอดตัวเรกุเลเตอร์ ใช้ไขควงหัวแฉก ไขสกรูออก 2 ตัว
|
 |
ถอดตัวเรกกุเลเตอร์ออกมาตรวจแปรงถ่าน
|
 |
วัดความยาวแปรงถ่าน สั้นกว่า 5 ม.ม. หรือยัง (แปรงถ่านนี้ตามสภาพยังไม่เสีย ยังสามารถใช้ได้ไปอีกระยะหนึ่ง)
|
 |
ทำความสะอาดตามซอกหลืบต่างๆ ใช้ลมเป่า
|
 |
ตรวจหน้าสัมผัสทางไฟฟ้า และตรวจจุดสัมผัสแปรงถ่านที่แกนไดชาร์จ
ลองหมุน เพื่อตรวจการหลวมและฟังเสียงผิดปกติ
|
 |
ตัวไดชาร์จพร้อมรับการติดตั้งเรกกุเลเตอร์
|
 |
ตัวเรกกุเลเตอร์ (คัตเอาต์ไดชาร์จ) ซื้อมาใหม่ 1 ตัว ยี่ห้อ BOSCH #238 EL 14V
(อะไหล่ที่ใช้ BOSCH 1 197 311 238 ราคา 1,700 บาท ซื้อเมื่อ 8/12/2011)
|
 |
เปิดล่องออกดู มีตัวสีดำเหมือนจานบิน หรือเหมือนหมวก ก็ว่ากันไป มีแปรงถ่าน 2 อัน
|
 |
หมวกสีดำนี้ คือไอซีเรกกุเลเตอร์ (Regulated IC) ที่จะควบคุมแรงดันออกให้คงที่ 14 V สร้างขึ้นมาสำหรับควบคุมไฟในไดชาร์จโดยเฉพาะ
|
 |
ด้านที่เห็นนี้คือแปรงถ่าน ที่เมื่อใช้งานไปนานเข้ามันจะสึก เหลือสั้นลง
|
 |
ความยาวแปรงถ่าน ของใหม่ วัดได้ 10 ม.ม.
|
 |
เทียบเรกกุเลเตอร์ ตัวเก่ากับตัวใหม่ เบอร์เดียวกัน
|
 |
ดูอีกด้านหนึ่ง ด้านข้างเทียบกัน
|
 |
เตรียมการติดตั้ง
|
 |
วางตัวเรกกุเลเตอร์ตรงตำแหน่งเดิม ดันให้แปรงถ่านเข้าไปชิดแกน
ดูขั้วไฟทุกขั้วสัมผัสตรงจุดที่ถูกต้อง จึงใช้สกรูขันยึดให้แน่น
|
 |
ตรวจความเรียบร้อย ดูจุดสัมผัสขั้วไฟฟ้าเข้าที่ทุกจุด
ลองหมุนพุลเล่ย์ดูการสัมผัสของแปรงถ่านกับแกน
|
 |
ติดตั้งตัวเรกกุเลเตอร์เข้าที่ดีแล้ว
|
 |
ใส่ครอบด้านหลัง ไม่ต้องขันน๊อตแน่นมาก
|
 |
น๊อตที่ใช้แบบมีปีก คือเป็นแหวนในตัว ถ้าขันแน่นมาก ตอนถอดคราวหน้าลำบากแน่นอน เพราะจะขันออกยากมาก
|
 |
ปรับตั้งน๊อตยึดขั้วไฟ (D+) ให้อยู่ระดับพอดี เพื่อรองรับการขันขั้วสายไฟ
|
 |
ประกอบฉนวนครอบขั้วไฟ (B+ และ D+)
|
 |
เมื่อใส่น๊อตครบทุกตัวแล้ว ยกไดชาร์จประกอบกลับเข้าที่เครื่องยนต์ตามเดิม
โดยต่อสายไฟเข้าที่หลังไดชาร์จ (อาจเรียกว่าตูดไดชาร์จ) ให้เรียบร้อยก่อน จึงใส่และขันโบลต์ยึด
ใส่ชิ้นส่วนต่างที่ถอดออกจนสมบูรณ์
ต่อสายกราวด์แบตเตอรี่ ทดลองติดเครื่องยนต์
ทดลองเปิดปิดไฟหน้า เปิดปิดเครื่องปรับอากาศ พร้อมกับการวัดไฟดูว่ากี่โวลต์
|