 |
BMW 525i (E34) DIY
Do it yourself by GRANDFATHER (Assoc.Prof. Boonchat Netisak)
การตรวจเช็คพัดลมไฟฟ้า BMW E34
Electric Fan Checking. |
 |
|
ทำความรู้จักกับพัดลมไฟฟ้าของ BMW E34
No problem, We can do, Please continue ............ this DIY.
[upLoad on 17/04/2012]
|
|
|
รู้จัก ... ฟิวส์ ที่จ่ายไฟให้พัดลม F25 F29
|
 |
ที่กล่องฟิวส์ในห้องเครื่องยนต์ มีฟิวส์ที่จ่ายให้พัดลมไฟฟ้าอยู่ 2 ตัว คือ หมายเลข 25 กับ หมายเลข 29
|
 |
ดูตำแหน่งของฟิวส์ตามลูกศรชี้
ฟิวส์หมายเลข 25 ตัวสีเขียว 30 แอมป์ มีไฟ +12 V ตลอดเวลา เพราะต่อกับแบตเตอรี่โดยตรง
ฟิวส์หมายเลข 29 ตัวสีน้ำตาว 7.5 แอมป์ มีไฟ +12 V ผ่านสวิตช์กุญแจ
|
 |
ในภาพ แสดงฟิวส์ No.29 ขาด (Open) จะไม่มีไฟเข้าขดลวดรีเลย์ พัดลมจะไม่หมุนทุกสปีด และระบบแอร์ไม่ทำงาน
การเปลี่ยน ใช้ฟิวส์ 7.5 A ตัวใหม่เปลี่ยนแทน
|
 |
ในภาพ แสดงฟิวส์ No.25 ขาด ทำให้ไม่มีไฟเข้าขา 30 ของรีเลย์ แม้คอนแทกต์ของรีเลย์จะต่อ ก็ไม่มีไฟไปยังพัดลม พัดลมจึงไม่หมุนทั้งสปีดโลและสปีดไฮ
จำเป็นต้องเปลี่ยน โดยใช้ฟิวส์ 30 A ตัวใหม่ใส่แทน
กรณีเปลี่ยนฟิวส์ใหม่ ถ้าพัดลมหมุนได้ปกติ ฟิวส์ไม่ขาด ก็ไม่ต้องซ่อมอะไร
แต่ถ้าเปลี่ยนฟิวส์ใหม่แล้ว พอทำงานฟิวส์ตัวใหม่ขาดอีก แบบนี้แสดงว่ามีการลัดวงจร ต้องหาจุดเสียให้พบ และแก้ไขก่อนจึงจะใส่ฟิวส์ใหม่เข้าไปได้
สาเหตุของฟิวส์ขาด อาจเกิดจาก สายไฟลัดลงจร ขดลวดมอเตอร์ชอร์ต หรือมอเตอร์ฝืด หมุนไม่ได้ เสียงดัง หมุนไม่คล่อง กินกระแสมากเกิน ขาเสียบฟิวส์สกปรก ไฟเดินไม่สะดวก ขาเสียบฟิวส์ร้อน ฟิวส์ละลาย เป็นต้น
|
|
รู้จัก ... รีเลย์ สปีดโล และสปีดไฮ
|
 |
มีรีเลย์ที่ใช้ควบคุมพัดลมไฟฟ้าอยู่ 2 ตัว บรรจุไว้ในกล่อง ตัวสีเหลือง กับตัวสีเขียว
ตัวสีเหลือง เป็นรีเลย์ควบคุมสปีดโล
ตัวสีเขียว เป็นรีเลย์ควบคุมสปีดไฮ
(สายไฟสีแดงที่เห็นอยู่ในกล่อง เป็นการต่อเพิ่มในระบบแก๊ส มีเฉพาะของผู้เขียน ท่านผู้อ่านไม่ต้องสนใจ)
|
 |
รีเลย์ควบคุมสปีดโล ตัวสีเหลือง ถอดออกมาดู บนตัวมันมีเลข 245 ไม่ได้สังเกตว่าเคยตรงกับเลขท้ายสามตัวของใต้ดินบนดินหรือไม่
|
 |
เบื้องแรก ตรวจดูขา ควรสะอาดจึงจะทำให้ไฟเดินได้สะดวก
นับขาของรีเลย์ได้ 5 ขา
|
 |
ที่ด้านข้างตัวรีเลย์ควบคุมสปีดโล ตัวสีเหลืองนี้ มีวงจรติดไว้
ขา 30 กับ ขา 87 เป็นคอนแทกต์ ไฟ +12V จะป้อนเข้าที่ขา 30 เมื่อคอนแทกต์ต่อ ไฟจะออกที่ขา 87
ขา 85 เป็นขารับไฟ +12V เข้าขดลวด (coil) ขา 86 และ ขา 86b (มีไดโอด) เป็นการที่จะต่อลงกราวด์ผ่านอุปกรณ์ควบคุม
|
 |
แสดงตำแหน่งขาของรีเลย์ควบคุมสปีดโล แต่ละขามีหมายเลขกำกับ
ขาคอนแท็กต์ 30 - 87
ขาคอยล์ 85 - 86 86b (ขา 86b อยู่ตรงกลาง)
|
 |
รีเลย์ควบคุมสปีดไฮ ตัวสีเขียว
|
 |
รีเลย์ควบคุมสปีดไฮ มี 4 ขา
ขาคอนแท็กต์ 30 - 87
ขาคอยล์ 85 - 86
|
 |
ตำแหน่งขาของรีเลย์ควบคุมสปีดไฮ (ตรงกลาง ว่าง)
|
 |
ซอกเก็ต (Socket) ที่ใช้เสียบขารีเลย์ สามารถถอดออกมา โดยการแงะบีบเขี้ยวที่ล๊อก (ตรงที่วงไว้) แล้วดึงตัวซอกเก็ตขึ้น
|
 |
การถอดซอกเก็ตออกมา เราสามารถตรวจสภาพสายไฟ ตรวจรอยไหม้ และทำให้พิสูจน์ตำแหน่งขาได้อย่างมั่นใจ
|
|
รู้จัก ... สวิตช์อุณหภูมิหม้อน้ำ
|
 |
สวิตช์อุณหภูมิหม้อน้ำ อาจเรียกว่า เซนเซอร์อุณหภูมิหม้อน้ำ ก็พอจะสื่อสารกันรู้เรื่อง
เพื่อเข้าถึงสวิตช์อุณหภูมิหม้อน้ำ เราต้องถอดแผ่นพลาสติกที่ปิดหลังไฟหน้าด้านขวาออก
|
 |
จะพบตัวสวิตช์อุณหภูมิที่ด้านข้างหม้อน้ำ มันจะทำหน้าที่รับรู้ว่าน้ำในหม้อน้ำร้อนมากเพียงใด
|
 |
ภายในสวิตช์อุณหภูมิตัวนี้ จะมีหน้าคอนแทกต์สองชุด (มีสวิตช์ 2 ตัว) เพื่อใช้ควบคุมสปีดพัดลม 2 สปีด คือ สปีดโล กับสปีดไฮ
เมื่อน้ำร้อนถึง 91 องศา ขึ้นไป จะต่อสปีดโล
เมื่อน้ำร้อนถึง 99 องศา ขึ้นไป จะต่อสปีดไฮ
การควบคุมจะไม่ควบคุมพัดลมโดยตรง แต่จะไปควบคุมรีเลย์ให้จ่ายกระแสไฟให้พัดลมอีกทีหนึ่ง โดยใช้รีเลย์ 2 ตัว สปีดละตัว
|
 |
เมื่อถอดปลั๊กของสวิตช์อุณหภูมิออกมาดู จะเห็นว่ามี 3 ขา (รู) เป็นตัวเมีย
|
 |
ที่ตัวสวิตช์ที่ติดกับหม้อน้ำจะรับรู้อุณหภูมิที่หม้อน้ำ มี 3 ขา เป็นตัวผู้ (รอไว้ให้ปลั๊กตัวเมียมาเสียบ)
|
 |
สายไฟที่ปลั๊กมี 3 เส้น
สายสีน้ำตาล คือ กราวด์
สายสีม่วง / เขียว คือ สปีดโล
สายสีดำ / เทา / เหลือง คือ สปีดไฮ
|
 |
วงจรไฟฟ้าของตัวสวิตช์อุณหภูมิหม้อน้ำ ดูในกรอบสีเขียว
ขา 1 คือกราวด์ ต่อไว้กับตัวถังรถโดยตรง
ขา 2 จะต่อกับกราวด์เมื่ออุณหภูมิ 91 องศา ขึ้นไป เป็นสปีดโลว์
ขา 3 จะต่อกับกราวด์เมื่ออุณหภูมิ 99 องศา ขึ้นไป เป็นสปีดไฮ
|
 |
เตรียมสายไฟจั๊มเปอร์ 1 เส้น ตามรูป
ใช้สายไฟยาวประมาณ 15-20 ซ.ม. ปอกฉนวนหัวท้าย ให้ทองแดงโผล่ประมาณ 1 ซ.ม. จั๊มเปอร์เส้นนี้จะใช้สำหรับทดสอบการหมุนของพัดลมที่สวิตช์อุณหภูมิหม้อน้ำ จั๊มเปอร์เส้นนี้ใช้สายไฟเส้นเล็กก็ได้ เพราะมีกระแสผ่านไม่มากตอนทดสอบ
|
 |
อีกเส้นหนึ่งทำสายจั๊มเปอร์แบบนี้ ใช้สายไฟเส้นใหญ่ 2.5 ม.ม. ใส่หัวเสียบ จะรองรับให้กระแสไฟผ่านได้มาก ไม่ร้อน เส้นนี้จะใช้เสียบทดสอบที่ขาของซอกเก็ตรีเลย์
ถ้าไม่ทำแบบนี้ จะทำแบบง่ายๆ ใช้สายไฟมาปอกฉนวนหัวท้ายก็ได้ แต่ควรใช้สายไฟเส้นโตหน่อย และขณะเสียบต้องกดให้แน่น
|
|
ตรวจการหมุนของพัดลม โดยการจั๊มสายที่สวิตช์อุณหภูมิหม้อน้ำ
|
 |
ก่อนอื่นต้องเปิดทางเพื่อเข้าถึงตัวสวิตช์อุณหภูมิที่ด้านข้างหม้อน้ำ
|
 |
ถอดปลั๊กของสวิตช์อุณหภูมิ สังเกตตำแหน่งขาทั้งสาม
|
 |
สายไฟที่ปลั๊กมี 3 เส้น สายสีน้ำตาลคือกราวด์ สายสีม่วง/เขียว คือสปีดโลว์ สายสีดำ/ เทา/เหลือง คือสปีดไฮ
|
 |
เตรียมสายไฟจั๊มเปอร์ 1 เส้น ตามรูป เราจะทดลองพัดลมไฟฟ้าหน้ารถ ว่า มันหมุนหรือเปล่า
|
 |
ตรวจสปีดโลว์ เปิดสวิตช์กุญแจไว้ที่ตำแหน่ง ON ก่อนสตาร์ท
ใช้สายจั๊มเปอร์เสียบระหว่างขา 1 - 2 ตามรูป ควรจะได้ยินเสียงรีเลย์ต่อ แล้วพัดลมหมุนในสปีดโลว์ หมุนแบบนิ่มๆ
|
 |
ตรวจสปีดไฮ เปิดสวิตช์กุญแจไว้ที่ตำแหน่ง ON ก่อนสตาร์ท
ใช้สายจั๊มเปอร์เสียบระหว่างขา 1 - 3 ตามรูป พัดลมต้องหมุนสปีดไฮ คือหมุนเร็วมาก
|
|
การวิเคราะห์ผลการทดสอบการหมุนของพัดลม กรณีทดสอบการหมุนที่สวิตช์อุณหภูมิ
- ถ้าทดสอบแล้วพัดลม หมุน ทั้งสปีดโล และสปีดไฮ แสดงว่า ทุกอย่างในระบบที่ควบคุมพัดลมไฟฟ้าทำงานปกติ
- ถ้าทดสอบแล้วพัดลม ไม่หมุน ทั้งสองสปีด ต้องตรวจการจ่ายไฟ ตรวจสอบฟิวส์ 25 - 29 และตรวจสอบสายไฟ ปลั๊กพัดลมและมอเตอร์พัดลม ... ตรวจสายจั๊มเปอร์ที่ใช้ ตรวจปลั๊ก ตรวจสายไฟ และตรวจสายกราวด์ของปลั๊กสวิตช์อุณหภูมิ
- ถ้าทดสอบแล้วพัดลมหมุนเฉพาะสปีดโล สปีดไฮไม่หมุน แสดงว่าวงจรสปีดโลดีทั้งหมด (ระบบไฟดี ฟิวส์ 25-29 ดี รีเลย์สปีดโลดี ตัวอาร์ (R) ดี และพัดลมดี)
ให้ตรวจวงจรสปีดไฮ เช่น รีเลย์ตัวสีเขียว ตรวจซอกเก็ต และสายไฟ
- กรณีที่พัดลมหมุนเฉพาะสปีดไฮ สปีดโลว์ไม่หมุน ต้องตรวจวงจรของสปีดโล คือตัวอาร์ (R) ที่ติดอยู่กับพัดลม ตรวจสอบรีเลย์ที่ควบคุมสปีดโลว์ตัวสีเหลือง ตรวจซอกเก็ตและสายไฟ
|
|
ตรวจการหมุนของพัดลม โดยสายจั๊มสายที่ซอกเก็ตรีเลย์
|
 |
ที่กล่องรีเลย์ควบคุมพัดลม เปิดฝาครอบกล่อง
|
 |
ถอดรีเลย์ออก โดยดึงตัวรีเลย์ขึ้นตรงๆ ให้ขาหลุดออกจากซอกเก็ต
ตัวซ้ายสีเขียว เป็นรีเลย์ไฮสปีด ตัวขวาสีเหลืองเป็นรีเลย์โลสปีด
|
 |
แสดงตำแหน่งที่จะใช้สายจั๊มเปอร์เสียบทดสอบ
|
 |
ขยายให้ใหญ่ขึ้น เราจะเสียบสายจั๊มเปอร์ระหว่างขา 30 กับขา 87 ตามแนวเส้นสีชมพู
หรือเมื่ออ่านเลขประจำขาด้านบนซอกเก็ต คือ ระหว่าง ขา 2 กับขา 6
|
 |
ถ้าไม่ชัวร์ ก็ต้องแงะซอกเก็ตเพื่อดูข้างใต้ เราจะเสียบจั๊มสายไฟคู่ที่เส้นใหญ่เข้าด้วยกัน
|
 |
อุปกรณ์ที่ต้องใช้ คือสายจั๊มเปอร์ที่เราทำจากการใช้สายไฟเส้นใหญ่ใส่หัวเสียบ ซึ่งจะให้กระแสไฟผ่านได้มาก โดยไม่ร้อน
|
 |
การตรวจ สปีดไฮ
ปกติมีไฟพร้อมอยู่ตลอดเวลาที่ซอกเก็ตของรีเลย์แล้ว (ไม่ต้องเปิดสวิตช์กุญแจ)
ใช้สายจั๊มเปอร์เสียบระหว่างขา 30 - 87 ของรีเลย์ตัวสีเขียว ตามรูป (ขา 2 กับขา 6 เมื่อ่านเลขที่ซอกเก็ต)
พัดลมต้องหมุนสปีดไฮ คือ หมุนเร็วมาก ได้ยินเสียงลมดังมาก
(ไม่ต้องเสียบนาน เสียบแค่รู้ว่าพัดลมหมุนก็พอ เพราะกระแสไฟไหลเยอะมาก หากใช้สายไฟเส้นเล็ก สายไฟจะร้อนมาก)
|
 |
วิเคราะห์ผลการตรวจ
ถ้าพัดลมหมุน
ถ้าพัดลมหมุนในสปีดไฮ แสดงว่าฟิวส์ No.25 ดี มีไฟมาที่รีเลย์ มีไฟไปเข้าพัดลม และมอเตอร์พัดลมดี พัดลมทำงานได้ จึงหมุนที่สปีดไฮ
ถ้าพัดลมไม่หมุน
ถ้าพัดลมไม่หมุน ต้องตรวจว่ามีไฟมาหรือไม่ โดยตรวจฟิวส์ No.25 ขาดหรือไม่ ตรวจสายไฟ และตรวจขั้วเสียบ ว่าไหม้ มีสนิม ไฟเดินได้หรือไม่ อาจมีอย่างใดอย่างหนึ่งบกพร่อง |
 |
กรณีไม่มั่นใจว่าขาถูกต้องหรือไม่ ให้ถอดซอกเก็ตออกดู
สายไฟใต้ซอกเก็ตของรีเลย์ไฮสปีด สายเส้นใหญ่สีแดงเป็นไฟมาจากฟิวส์ No.25 สายเส้นใหญ่สีน้ำเงินดำเป็นสายไฟไปเข้าพัดลมสปีดไฮ
เราต้องจั๊มสายสองเส้นนี้เข้าด้วยกันเพื่อการทดสอบ
|
 |
การตรวจ สปีดโล
การตรวจว่ามีไฟไปเข้าพัดลมหรือไม่ (ไม่ต้องเปิดสวิตช์กุญแจ เพราะมีไฟพร้อมอยู่ตลอดเวลาแล้ว)
ใช้สายจั๊มเปอร์เสียบระหว่างขา 30 - 87 ของรีเลย์ตัวสีเหลือง ตามรูป (ขา 2 กับขา 6 เมื่อ่านเลขที่ซอกเก็ต)
พัดลมต้องหมุนสปีดโล คือหมุนปกติ ช้า นิ่ม เสียงลมไม่ดังมาก
|
 |
วิเคราะห์ผลการตรวจ
ถ้าพัดลมไม่หมุน ที่สปีดโล (หมุนเฉพาะสปีดไฮ)
ถ้าพัดลมไม่หมุน ที่สปีดโล (หมุนเฉพาะสปีดไฮ) ต้องตรวจว่า ตัวต้านทาน R คุมสปีดโล (ขาดหรือไม่) ตรวจสายไฟ และตรวจขั้วเสียบ
|
 |
รายละเอียดสายไฟใต้ซอกเก็ตของรีเลย์สปีดโล การจั๊มสายต้องจั๊มระหว่างสายไฟเส้นใหญ่ทั้งสองเส้น
|
|
ข้อเสนอแนะที่เกี่ยวข้องกับพัดลมไฟฟ้า BMW E34
|
- พัดลมไฟฟ้าของ BMW E34 ควรดูแลให้ทำงานได้อย่างดี ในทั้งสองสปีด การหมุนต้องนิ่มนวล ไม่มีเสียงดังจาการเสียดสี แกนพัดลมต้องไม่หลวมและไม่สั่น
- ปกติพัดลมไฟฟ้าจะทำงานที่สปีดโล เพื่อระบายความร้อนของแผงคอนเดนเซอร์แอร์ ถ้าพัดลมหมุนได้ดี การระบายความร้อนจะดี ซึ่งจะได้ความเย็นของแอร์เต็มประสิทธิภาพ
- กรณีพัดลมทำงานที่สปีดไฮ อาจมีสาเหตุ เช่น 1) ระบบระบายความร้อนของเครื่องยนต์อาจบกพร่อง รังผึ้งหม้อน้ำอุดตัน ทำให้อุณหภูมิของน้ำในหม้อน้ำสูงเกิน 99 องศา
2) รังผึ้งของแผงคอนเดนเซอร์แอร์อุดตัน ระบายความร้อนไม่ดี ทำให้แรงดันน้ำยาแอร์สูงเกิน 261 psi. ถ้ารังผึ้งอุดตันลมผ่านไม่ได้จะทำให้พัดลมทำงานหนัก กินกระแสมากเกิน และเสียงดัง
- สปีดไฮควรเกิดขึ้นตอนที่อากาศภายนอกร้อนมากๆ เช่นเดือนเมษายน หรือรถติดไม่เคลื่อนที่ ถ้าสปีดไฮทำงานบ่อยๆ
ควรล้างทำความสะอาดรังผึ้งของแผงแอร์ และหม้อน้ำให้สะอาด และให้ลมทะลุผ่านได้ดี ไม่อุดตัน ควรถ่ายน้ำระบายความร้อน ล้างหม้อน้ำ เติมน้ำยาที่ช่วยระบายความร้อนในน้ำ
- พัดลมไฟฟ้าเป็นพระเอก ในการระบายความร้อนของแผงคอนเดนเซอร์แอร์ ส่วนพัดลมหน้าเครื่องยนต์ ที่หมุนโดยสายพาน เป็นพระเอกของการระบายความร้อนของเครื่องยนต์ ผ่านแผงหม้อน้ำหน้าเครื่องยนต์ เราควรดูแลให้อยู่ในสภาพดี ทำงานสมบูรณ์ทั้งสองตัว จึงจะใช้รถได้อย่างมั่นใจ
- พัดลมไฟฟ้าใหม่ ไม่จำเป็นต้องซื้อของ OEM ผมใช้ของที่ผลิตจากใต้หวันมาเปลี่ยนแทนตัวเก่าที่เวลาหมุนมีเสียงดัง ปรากฏว่าการหมุนนิ่มมาก เสียงไม่ดัง หมุนคล่องขนาดเราดับเครื่องยนต์ถอดกุญแจออก แล้วเดินลงมาดูที่กระจังหน้า กว่าที่พัดลมจะหยุดหมุนฟรีก็กินเวลาอีกตั้งนาน ราคาของใหม่ ซิงๆ 2500 บาท ผมว่าเปลี่ยนแล้วสบายใจและชัวร์มากๆ ... เป็นข้อมูลประกอบการพิจารณาเลือกนะครับ
|
ขอให้ทุกท่านโชคดี ...........ขับขี่รถ ปลอดภัย ทุกสถานการณ์
มีความสุข ในชีวิต และ ในการ D.I.Y. BMW E34 นะครับ
Homepage of GRANDFATHER : Assoc.Prof.BOONCHAT NETISAK
|
|