ตอนเราจอดรถ และดับเครื่องยนต์ ถ้าปรากฏคำว่า LIGHT ON? หมายความว่า ไฟหน้ารถยังเปิดอยู่ ระบบเขาเตือนเราเพราะบางทีเราอาจลืมปิด ให้เราดูว่าจะปิดหรือไม่ปิด ถ้าจอดประเดี๋ยวเดียวไม่ต้องปิดก็ได้ ถ้าจอดนานควรปิด แบตเตอรีอาจไม่พอสตาร์ต
กล่องฟิวส์อยู่ด้านซ้ายของเครื่องยนต์ เปิดฝาออก
หงายฝาขึ้น จะเห็นรายละเอียดตำแหน่งฟิวส์
- ฟิวส์หมายเลข 10, 11 เป็นฟิวส์ไฟต่ำ
- หมายเลข 13, 14 เป็นฟิวส์ไฟสูง
Homepage of Associate Professor BOONCHAT NETISAK
ADDRESS : 99/60 soi 9 PAHONYOTHIN ROAD AMPHER MUANG, LAMPANG THAILAND 52100
Copyright © by BOONCHAT NETISAK, All Rights Reserved.
ระบบไฟหน้า ของ BMW E34 ตอนที่ 1
ตอนเราสตาร์ตรถ ติดเครื่องยนต์ หรือขับรถไป ถ้าปรากฏคำว่า DIP BEAM หมายความว่า ตาบอดข้างหนึ่ง ไฟต่ำหน้ารถไม่ติด 1 ข้าง ระบบเขาเตือนเราให้แก้ไข ต้องตรวจดูว่าหลอดไฟต่ำข้างใดข้างหนึ่งขาดหรือไม่ ฟิวส์หมายเลข 10 - 11 (7.5A) ขาดหรือไม่ ตอนจอดรถ ดับเครื่องยนต์ ก็จะเตือนอีก จนกว่าเราจะแก้ไขให้ดี เช่นถ้าหลอดขาด เราเปลี่ยนหลอดใหม่ใส่เข้าไป ระบบเขาจะเช็คไม่พบข้อบกพร่อง ก็จะไม่ขึ้น DIP BEAM อีก ระบบทำการรีเซ็ตอัตโนมัติ
ระบบไฟหน้าของ BMW E34 มี 10 ดวง ซีกซ้าย 5 ดวง ซีกขวา 5 ดวง
ลองดูตำแหน่งไฟซีกขวา (ซีกซ้ายก็แบบเดียวกัน แต่กลับทาง)
- หมายเลข 1 ไฟสูง (High Beam Light)
- หมายเลข 2 ไฟต่ำ (Low Beam Light)
- หมายเลข 3 ไฟหรี่ หรือไฟจอด (Park Light)
- หมายเลข 4 ไฟเลี้ยว (Turn Light Signal)
- หมายเลข 5 ไฟตัดหมอก (Fog Light)
ตำแหน่งฟิวส์ไฟหน้าและการตรวจฟิวส์
การเข้าถึงหลอดไฟหน้า ของ BMW E34
การถอด - เปลี่ยน หลอดไฟต่ำ
การถอด - เปลี่ยน หลอดไฟสูง
การถอด - เปลี่ยน หลอดไฟจอด (ไฟหรี่)
ฟิวส์สีน้ำตาล ขนาด 7.5 Amp. 32 V
- ฟิวส์หมายเลข 10 เป็นฟิวส์ไฟต่ำ ด้านซ้าย
- ฟิวส์หมายเลข 11 เป็นฟิวส์ไฟต่ำ ด้านขวา
- หมายเลข 13 เป็นฟิวส์ไฟสูง ด้านซ้าย
- หมายเลข 14 เป็นฟิวส์ไฟสูง ด้านขวา
เมื่อถอดแผ่นพลาสติกออก จะเห็นด้านหลังหลอดไฟ
ภาพนี้ด้านขวา
- หมายเลข 1 เป็นหลอดไฟต่ำ ปลั๊กสีเหลือง
- หมายเลข 2 เป็นหลอดไฟสูง ปลั๊กสีขาว
- หมายเลข 3 เป็นหลอดไฟจอดปลั๊กสีเทา
- กดลวดล็อกหลอด ให้ลวดออกจากขอ
- เอาตัวหลอดไฟต่ำออกมา
(ควรสวมถุงมือ หรือใช้กระดาษสะอาดรองจับหลอด อย่าสัมผัสแก้ว จับตรงฐาน)
- กดลวดล็อกหลอด ให้ลวดออกจากขอ มีขอเดียว
- เอาตัวหลอดไฟสูงออกมา
การเปลี่ยนหลอดไฟสูง ทำเช่นเดียวกับหลอดไฟต่ำ
หลอดไฟที่ถอดออกแล้ว เราจับตรงฐานหลอดเท่านั้น
ตรวจดูไส้หลอด เป็นขดลวดคล้ายสปริง ขาด-ไม่ขาด ดูด้วยตา
บางทีตาดูไม่เห็นว่าขาด แต่หลอดไม่ติด มันก็ต้องเปลี่ยน
ทั้งหลอดไฟต่ำ และหลอดไฟสูง ใช้หลอดเหมือนกัน
เวลาซื้อ บอกคนขายว่า หลอด H1 55 watt 12 Volt
ราคาประมาณหลอดละ 60 บาท (ราคาสูง-ต่ำตามยี่ห้อ)
ไฟจอด ปลั๊กสีเทา อยู่บนหลอดไฟต่ำ ถอดปลั๊กออก
กดหลอดเข้าเล็กน้อย บิดขั้วหลอดไปทางซ้าย พอหมดล็อก ดึงขั้วหลอดออก
ขั้วหลอดไฟจอด หรือไฟหรี่ ถอดออกพร้อมกับตัวหลอดอยู่ที่ปลาย
หลอดไฟจอด ขนาด 12 V 5 watt แบบเสียบ ตรวจดูไส้หลอด ว่า ขาด หรือไม่ขาด
หลอดไฟจอดนี้ ไส้หลอดมันเล็กมาก มองดูไส้อาจเห็นว่ามันปกติ แต่หลอดไม่ติด แสดงว่ามันขาด จะดูที่ไส้หลอดอย่างเดียวไม่ได้ ต้องดูขณะเปิดไฟว่าหลอดมันติดหรือไม่จึงจะชัวส์
หมายเหตุ
หลอดไฟสูงกับหลอดไฟต่ำ ใช้ขนาดเดียวกัน เบอร์เดียวกัน H1 55W 12V ควรซื้อสำรองติดรถไว้บ้าง สัก 1 หลอด
ถ้าหลอดไฟต่ำขาด สามารถแก้ปัญหาเฉพาะหน้าโดยเปลี่ยนเอาหลอดไฟสูงมาใส่แทนหลอดไฟต่ำได้ เพราะไฟสูงนาน ๆ จึงจะได้ใช้
ไฟต่ำจำเป็นมากกว่า ต้องเปิดตลอดเวลา หากเอาหลอดไฟสูงมาแทน ควรรีบเปลี่ยนให้หลอดไฟหน้าสมบูรณ์ทุกดวงในโอกาสแรกที่ทำได้
ข้อมูลราคาที่ผมซื้อ (18 / 10 / 2551 ; ที่ จ.ลำปาง)
หลอด H1 55W 12V สำหรับไฟสูง และไฟต่ำ หลอดละ 60 บาท
หลอดไฟจอด (ไฟหรี่) แบบเสียบ หลอดละ 10 บาท
สงสัย ... ใช้ฟิวส์ รถญี่ปุ่นใส่แทนได้ไหม
- no problem ... ไม่มีปัญหา ใช้ได้เลย ขาเท่ากัน ใช้แอมป์เท่ากับตัวที่จะแทน
- แต่ .... ฟิวส์รถญี่ปุ่น การตรวจว่าฟิวส์ขาดหรือไม่ขาด ต้องมองทางด้านข้าง คือต้องถอดฟิวส์ออกมาตรวจข้างนอก
- ฟิวส์ของ BMW มองจากด้านบนไม่ต้องถอด
คำเตือน ...!
ขณะหลอดไฟทำงานมันจะร้อนมากกว่า 200 องศาซี เพื่อความปลอดภัย ก่อนถอดหลอดไฟ ต้องปิดสวิตช์ไฟหน้า ปล่อยให้หลอดเย็น ใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 5 นาที การถอดหลอดต้องใช้ผ้าสะอาดหรือกระดาษรองจับที่ฐานหลอด อย่าสัมผัสหลอดแก้ว ไขมันและเกลือจากมืออาจทำให้หลอดบวม
ถ้าหลอดขาด เปลี่ยนเอาหลอดใหม่ใส่ เช็ดทำความสะอาดขั้วหลอด ใส่กลับที่เดิม
หลอดใหม่ ๆ ราคาที่ผมซื้อหลอดละ 10 บาท ไม่มียี่ห้อ เอารูปร่างเหมือนหลอดเดิม ขนาด 5 วัตต์ 12 โวลต์
ระวัง ..!
เวลาใส่หลอดต้องเสียบให้แน่น ถ้าไม่แน่นตัวหลอดอาจหลุดตกเข้าไปอยู่ข้างในดวงโคมไฟหน้า คราวนี้แหละ ได้รื้อกันสนุกแน่ อาจทำให้เสียอารมณ์ ... ตอนที่จะเอาหลอดออก
วัยรุ่นจะโวย ว่า .... งานเข้า
วิธีตรวจหลอดไฟ
จอดรถ เข้าเกียร์ว่าง (N หรือ P) ดึงเบรกมือ ติดเครื่องยนต์ เปิดสวิตช์ไฟแล้วเดินดูรอบ ๆ รถ อาจเปิดสวิตช์ไฟทุกดวงแล้วเดินดู ถ้าพบดวงไหนขาดก็จำไว้ จะได้เปลี่ยนหลอด หรือตรวจซ่อมเฉพาะดวงนั้น
หากกลัวสับสนว่าเป็นหลอดดวงไหนแน่ ก็เปิดสวิตช์ไฟที่ละอย่าง เช่น เปิดสวิตช์เพื่อตรวจไฟต่ำ เปิดไฟเลี้ยว เปิดไฟจอด ซึ่งถ้าตรวจคนเดียวจะต้องเดินดูหลายรอบ อาจเวียนหัว จะให้ดีควรมีผู้ช่วย คนหนึ่งเปิดสวิตช์ไฟในรถ อีกคนช่วยเดินดู ก็จะเร็วขึ้น