BMW 525i (E34) DIY
Do it yourself by GRANDFATHER (Assoc.Prof. Boonchat Netisak)

สกรูไล่อากาศที่หม้อน้ำ
Radiator Bleed Screw
l l MAIN MENU โดย คุณปู่ บุญชัด เนติศักดิ์ l

      สกรูไล่อากาศที่หม้อน้ำ

    ระบบระบายความร้อนของเครื่องยนต์ เป็นระบบปิด มีน้ำ (พร้อมน้ำยาหล่อเย็น) อยู่ในระบบ มีท่อเชื่อมโยงน้ำให้ไหลหมุนเวียนในระบบตลอดเวลา น้ำร้อนไหลออกจากเครื่องยนต์เข้าไปยังหม้อน้ำ ให้พัดลมเป่าระบายความร้อนออก แล้วไหลกลับเข้าไประบายความร้อนในเครื่องยนต์ใหม่ ใช้น้ำเดิมหมุนเวียนเป็นวงรอบ

    การหมุนเวียนของน้ำ อาศัยปั๊มน้ำที่หมุนโดยสายพานหน้าเครื่องยนต์เป็นตัวขับ มีวาวล์น้ำเป็นตัวเปิดปิดการไหลของน้ำ
    - กรณีเครื่องยนต์อุณหภูมิต่ำเครื่องยังไม่ร้อน วาวล์น้ำจะปิด ให้น้ำไหลเวียนอยู่เฉพาะในเครื่องยนต์
    - เมื่อเครื่องยนต์ร้อน อุณหภูมิสูงเกินพิกัดของวาวล์น้ำ วาวล์น้ำจะเปิดให้น้ำไหลเวียนออกมาที่หม้อน้ำ

    ข้อสำคัญ ... ต้องไม่มีอากาศปนอยู่ภายในระบบระบายความร้อนของเครื่องยนต์ เพราะอากาศจะเป็นตัวขัดขวางการระบายความร้อน นั่นคือภายในระบบต้องมีน้ำและสารหล่อเย็น เท่านั้น

    ถ้ามีอากาศอยู่ในระบบ .... ก็จัดการเอาออก

    วิธีเอาอากาศออก เราเรียกกันว่า ไล่อากาศ

  • การไล่อากาศจากระบบน้ำระบายความร้อน ต้องติดเครื่องยนต์ให้เครื่องร้อนจนวาวล์น้ำเปิด แล้วเร่งเครื่อง คลายสกรูให้น้ำล้นออกมา ถ้ามีฟองก็เร่งเครื่องให้น้ำไหลออกมาเรื่อยๆ จนหมดฟอง มีแต่น้ำล้วนๆ ไหลออกมา จึงขันสกรูปิด

    สกรูที่ใช้ขันเปิดให้อากาศออก และขันปิดไม่ให้น้ำออกจากระบบ ตัวนี้ คือ พระเอกของเรื่องสำหรับเพจนี้ ลักษณะตัวเล็กๆ ดำๆ แต่ฤทธิ์เยอะ มันทำหน้าที่อุดไม่ให้น้ำระบายความร้อนออก จะเรียกว่าปลั๊ก (plug) ก็ได้

    ถ้าไม่มีสกรูตัวนี้ น้ำระบายความร้อนก็จะไหลออกมา น้ำแห้ง ไม่มีน้ำระบายความร้อนในระบบ เครื่องยนต์ จะ Over Heat พัง ...

    ถ้าสกรูตัวนี้ รั่วซึม อุดไม่ค่อยจะอยู่ น้ำบางส่วนรั่ว ระดับน้ำในกระป๋องพักน้ำจะลดลงทีละน้อย เราสังเกตดูและเติมน้ำให้ได้ระดับ ก็ไม่มีอันตรายอะไร

    กรณีเราไม่รู้จักสกรูตัวนี้ ไม่ได้ใช้ไล่อากาศออกจากระบบ เติมน้ำอย่างเดียว มีอากาศอยู่ในระบบมาก ทำให้เครื่องยนต์ระบายความร้อนไม่ดี ความร้อนขึ้น เข็มขึ้นบ่ายสองโมง เราขับรถไป วิตกกังวลใจ รู้สึกร้อนกว่าเครื่องยนต์ เหงื่อออกเม็ดโป้ง ..... กลัวรถพัง



    ลองติดตามอ่าน DIY เพจนี้ดู ได้ลงรูปและเนื้อหาไว้อย่างละเอียดแล้ว


   No problem, We can do, Please continue ............ this DIY.
   [upLoad on 01/06/2012]


เรื่องราวและภาพของสกรูไล่อากาศหม้อน้ำ E34
  • สกรูไล่อากาศที่หม้อน้ำของรถยนต์ BMW E34 (Bleed Screw or Bleed Plug)
  • ตำแหน่งอยู่ข้างๆ ฝาปิดหม้อน้ำ
  • หัวเป็นกากะบาท นี่แหละสกรูไล่อากาศ พระเอกตามท้องเรื่อง
  • จะว่าหัวเป็นเครื่องหมายบวก หรือเครื่องหมายคูณ ก็สามารถเอียงคอดูได้
  • มีภาษาเยอรมันกำกับไว้ ... entluftung (เอ็นทุลุฟด้ง)
  • อ่านมั่วๆ ว่า เอ็นทะลุโด่ง
  • แปลว่า การระบายอากาศ
  • การไล่อากาศจากระบบน้ำระบายความร้อน ต้องติดเครื่องยนต์ให้เครื่องร้อนจนวาวล์น้ำเปิด แล้วเร่งเครื่อง คลายสกรูให้น้ำล้นออกมา ถ้ามีฟองก็เร่งเครื่องให้น้ำไหลออกมาเรื่อยๆ จนหมดฟอง มีแต่น้ำล้วนๆ ไหลออกมา จึงขันสกรูปิด
  • เมื่อไล่อากาศเสร็จ ขันสกรูปิดแล้ว ถ้าเร่งเครื่องจะเห็นสายน้ำไหลลงในกระป๋องพัก (มีแต่น้ำ ไม่มีอากาศ) ส่วนใหญ่เราไม่ได้ดูตรงนี้ เพราะปิดฝาแล้ว (สังเกตดูในวงกลม)
  • หลังดับเครื่องยนต์ ทิ้งไว้สักพักใหญ่ๆ ควรตรวจดูระดับน้ำที่ข้างกระป๋องพัก ควรอยู่ที่ระดับ COLD ไม่ต้องเป๊ะก็ได้ ต่ำกว่านิ้วสองนิ้วก็ยังถือว่ามีน้ำ ไม่ต้องวิตกมาก หน้าที่เราคือเติมเพิ่มเข้าไปให้ได้ระดับ และต้องตรวจเติมบ่อยๆ ให้มีน้ำอยู่ในระบบ อย่าให้ขาดน้ำ
  • ถ้าน้ำแห้งระดับต่ำมากจะมีไฟเตือนขึ้นที่หน้าปัด ต้องหยุดรถตรวจน้ำโดยด่วน บางครั้งเซนเซอร์มันหลอกเรา ต้องดูให้ดี จริงหรือหลอก
  • ตอนเช้าที่เครื่องไม่ร้อนเปิดฝากระป๋องพักดูระดับน้ำได้ จะเห็นชัดดีกว่า ถ้ากระป๋องสกปรกมองจากข้างนอกอาจนึกว่ามีน้ำ แต่อาจเจอคราบน้ำเก่ามันหลอกก็ได้
  • การขันสกรู ควรใช้เหรียญหนึ่งบาทไทยเป็นตัวช่วย
  • บิดเหรียญหมุนไปทางขวา ตามเข็มนาฬิกา คือหมุนเข้า ขันปิดให้แน่น
  • บิดเหรียญหมุนไปทางซ้าย ทวนเข็มนาฬิกา คือหมุนออก ขันออกให้หลวม
  • ถามว่า ต้องบิดแน่นแค่ไหน ....จึงจะพอ
  • ตอบว่า เอาแค่พอตึงมือ แน่นเกินไปสกรูจะขาด
  • ตัวอย่าง ที่ 1 สกรูไล่อากาศขาด
  • แบบนี้ต้องจอดหลายวันจนกว่าจะได้อะไหล่มา
  • จึงเห็นได้ว่าสกรูตัวเล็กๆ ตัวเดียวเมื่อเสีย ระบบระบายความร้อนจะใช้ไม่ได้ รถจึงไม่สามารถวิ่งได้ ต้องจอดหรือลากเท่านั้น
  • พอได้อะไหล่ใหม่มาใส่ เติมน้ำ ไล่อากาศ รถวิ่งได้ทันที จึงสรุปว่า เจ้าตัวเล็กนี่มีฤทธิ์เยอะทีเดียว
  • เหตุนี้เกิดหลายปีแล้ว ขันแน่นจนขาดคารูโดยไม่รู้ตัว
  • สาเหตุเนื่องจากว่าผมเห็นรอยผ่าบนหัวสกรูมันใหญ่มาก จึงใช้ไขควงตัวใหญ่ (มาก) ที่ปากมันเข้าพอดีกับหัวสกรู
  • ใช้มือซ้ายจับไขควงขัน มือขวากดคันเร่งที่ลิ้นปีกผีเสื้อ พอไล่อากาศออกหมด มือซ้ายขันสกรูปิดเบาๆ เท่านี้เอง สกรูขาด ..... เป็นเรื่องใหญ่ทันที
  • ทำไม ... สกรูจึงขาด เนื่องจากใช้ไขควงใหญ่เกินไป ออกแรงขันด้วยความรู้สึกว่าเล็กน้อย แต่แรงกระทำที่หัวสกรูมากเกินที่สกรูจะรับได้ ประสาทสมองแบ่งแยกความรู้สึกและควบคุมการออกแรงของมือซ้ายมือขวาผิดพลาด ประมาณนี้ครับ
  • เมื่อสกรูขาดคารูอยู่อย่างนี้ ต้องหาวิธีเอาออก ใช้สว่านดอกเล็กประมาณ 1 ม.ม. เจาะ ค่อยๆเจาะแบบบรรจงเจาะนะครับ อย่าให้พลาดไปถูกเกลียวข้างรู
  • เจาะไป 1 รู ลึกประมาณ 3 ม.ม. ตอนนี้บนสกรูที่ขาด จะเห็นว่ามี 1 รูกลม กับ 1 ร่องน้ำข้างๆ สี่เหลี่ยม
  • เราจะใช้ร่องน้ำข้างๆ ร่วมกับรูที่เราเจาะ เป็นจุดหมุนสกรูออก
  • หาเครื่องมือ ได้คีมถอดสปริงล็อกที่ปากแหลม ใส่เข้าไปที่รูกับร่องบนสกรู แล้วค่อยๆ หมุนเอาสกรูออกมา
  • ชิ้นส่วนสกรู หัวสกรู กับตัวสกรู จะเห็นว่าตรงเกลียวมีร่องน้ำอยู่ ที่เราได้ใช้ประโยชน์ในการถอดด้วย
  • สังเกตที่หัวสกรู แสดงว่าขันแรงจนหัวเยินหมด มันขาดก็สมควรแล้ว
  • อะไหล่ใหม่ สกรูไล่อากาศที่หม้อน้ำ ตัวละ 80 บาท
  • เทียบสกรู ใหม่ กับ เก่า แบบเดียวกัน
  • ได้สกรูใหม่มาใส่ เติมน้ำ ไล่อากาศ รถก็วิ่งใช้งานได้ปกติ
  • ดังนั้น .... ท่านทั้งหลาย โปรดใช้เหรียญ 1 บาท เป็นตัวช่วยขันสกรูไล่อากาศนะครับ รับรองปลอดภัย
  • ใครจะบ้า บิดเหรียญจนสกรูขาด ก็ให้มันรู้ไป
  • ตัวอย่าง ที่ 2 สกรูไล่อากาศสกปรก
  • อันนี้ไม่ปัญหาที่เกิดจากสกรูไล่อากาศ แต่มันใช้บอกเราได้ว่า น้ำในระบบระบายความร้อนเครื่องยนต์คุณภาพแย่แล้ว
  • สังเกตสนิมสีเหลืองที่ติดแทรกอยู่ตามเกลียว มันมากับน้ำ แบบนี้ต้องถ่ายน้ำ ล้างระบบ ใช้น้ำยาล้างหม้อน้ำเติมในน้ำแล้ววิ่งรถใช้งานประมาณครึ่งชั่วโมง หลังจากนั้นถ่ายน้ำออกจนหมด
  • เติมน้ำใหม่เข้าไป (ใช้น้ำประปา) แล้วถ่ายน้ำออก และเติมน้ำใหม่ ประมาณ 3 ครั้ง
  • ขณะที่เติมน้ำใหม่ต้องติดเครื่องเดินเบาบ้าง เร่งบ้าง จนเครื่องร้อน วาวล์น้ำเปิด ให้น้ำไหลหมุนเวียน (ล้าง) ในเครื่อง จึงถ่ายน้ำออก ดูน้ำที่ถ่ายออกครั้งสุดท้ายต้องใส
  • ทำการเติมน้ำใหม่เข้าไป คราวนี้เป็นน้ำที่ใช้จริง อาจใช้น้ำดื่มขวดหรือน้ำสะอาด ควรเติมน้ำยาหม้อน้ำเข้าไปด้วย เช่น น้ำยาคูลแล้นต์กันสนิม
  • ตัวอย่าง ที่ 3 มีคราบหินปูนรอบๆ สกรูไล่อากาศ
  • เกิดอะไรขึ้น .... คราบเหลืองนี้ บอกอะไรแก่เรา
  • ขยายดูใกล้ๆ
  • อย่าคิดนะครับ ว่าขับ E34 แล้ว จะมีผงทองคำเกิดขึ้นที่สกรูไล่อากาศ
  • คราบเหลืองนี้ แม้จะล้าง ใช้แปรงสีฟันขัดออกจนสะอาด ไม่นานก็จะเกิดขึ้นอีก
  • อาการนี้ บอกได้ว่า มีน้ำรั่วที่สกรูไล่อากาศ (ตอนแรกไม่ทราบ มาถึงบางอ้อเอาตอนหลังนะครับ)
  • น้ำรั่วทุกวัน ๆ หลายวัน สะสมแห้งตกเป็นผลึกสีเหลืองรอบหัวสกรู
  • คราบที่เกิดนี้จะเป็นหินปูน หรือคราบเคมีของน้ำยาคูลแล้นต์ในหม้อน้ำ ไม่ได้พิสูจน์ว่าเป็นอะไรแน่ แต่มันมีประโยชน์บอกอาการน้ำรั่วแก่เราได้
  • เปิดเอาสกรูมาดู ใช้เหรียญช่วย ถูกต้องตามหลักการ
  • เอาสกรูออกมา มีผลึกเหลืองด้านข้างสกรู และที่ข้างรู ในรูก็มีด้วย
  • เช็ดทำความสะอาด เช็ดตัวสกรู และรูที่หม้อน้ำ
  • ดูที่ตัวสกรู ดูที่รูของหม้อน้ำ ไม่มีอะไรที่บอกว่าน้ำรั่ว
  • มาถึงบางอ้อ .... เอาสกรูอีกอันหนึ่งมาเทียบ
  • ท่านผู้อ่านเห็นหรือยัง .... ตัวหนึ่งไม่มีโอริง อีกตัวหนึ่งมีโอริง
  • สรุปว่าสกรูไล่อากาศหม้อน้ำต้องมีโอริงด้วย กันน้ำรั่ว
  • ลองตรวจสกรูไล่อากาศหม้อน้ำรถของท่านว่ามีโอริงไหม ถ้าไม่มีก็หามาใส่ จะได้กันน้ำรั่วได้
  • ซื้อหม้อน้ำมาใหม่ก็ตรวจด้วยนะครับ ของผมซื้อหม้อน้ำใหม่ไม่มีโอริง กว่าจะหาสาเหตุเจอก็นานครับ
  • โอริง ตัวเล็กนิดเดียว รักษาอาการน้ำรั่วได้ครับ
  • สรุป น้ำระบายความร้อนของเครื่องยนต์ถ้าเป็นสนิมสีเหลืองมาก ให้ใช้น้ำยาล้างให้สะอาดทั้งระบบ
  • ใช้น้ำสะอาดเติมหม้อน้ำ ผสมน้ำยากันสนิมและหล่อเย็นเข้าไปด้วย ตามอัตราส่วนของน้ำยายี่ห้อที่ซื้อมาใช้
  • การบิดขันสกรูไล่อากาศเข้า-ออก ใช้เหรียญ 1 บาทเป็นตัวช่วย ขันแน่นพอตึงมือ
  • ห้ามใช้ไขควงตัวใหญ่ขัน สกรูจะขาด เพราะแรงเยอะเกินไป
  • รอบหัวสกรูไล่อากาศต้องสะอาด ไม่มีคราบเหลือง คราบเขียว หรือสิ่งผิดปกติ
  • หากมีคราบใดๆ สะสมเกิดขึ้นรอบหัวสกรูไล่อากาศ อาจมีน้ำรั่วได้ ต้องตรวจเปลี่ยนโอริง และขันสกรูใหม่
  • สรุปค่าใช้จ่าย
    - ราคาสกรูไล่อากาศแบบเดิมๆ ตัวละ 80 บาท (ข้อมูล ณ 10/5/2005)

    - เห็นว่ามีอะไหล่บางเจ้า ทำเป็นสกรูทองเหลือง ราคาใกล้เคียงกันกับแบบเดิม ตัวนี้ไม่กล้าใช้ เพราะวัสดุต่างชนิดกับตัวเกลียวที่หม้อน้ำ ความแข็งไม่เท่ากัน ใช้อย่างเดิมสบายใจกว่า ปฏิบัติตามคำแนะนำข้างต้น ไม่น่าจะมีสกรูขาด

    - ถ้าเปลี่ยนไปใช้ทองเหลือง ถ้าเกิดขันพลาด เผลอขันแรงไปหน่อย สกรูไม่ขาด แต่เกลียวที่หม้อน้ำรูด ..... เศร้า หนักกว่าสกรูขาด

    - ลองพิจารณาดู แล้วเลือกให้เหมาะ รถใคร รถมัน นะครับ



  • ขอให้ทุกท่านโชคดี ...........ขับขี่รถ ปลอดภัย ทุกสถานการณ์
    มีความสุข ในชีวิต และ ในการ D.I.Y. BMW E34 นะครับ





    Homepage of GRANDFATHER : Assoc.Prof.BOONCHAT NETISAK
    Copyright © by BOONCHAT NETISAK, All Rights Reserved.


    [ BMW E34 DIY MAIN MENU ]