BMW E34 DIY

น้ำในหม้อน้ำหาย .... วิเคราะห์ ตรวจ ซ่อม
E34 525i Radiator Replacement
l โดย รองศาสตราจารย์บุญชัด เนติศักดิ์ l MAIN MENU l

   น้ำในหม้อน้ำ หายไปไหน

  • มีท่านผู้ใช้ BMW E34 525 ปรึกษาผมทาง email เกี่ยวกับปัญหาน้ำในหม้อน้ำหาย บอกว่าได้ตรวจสอบอย่างดีทุกซอกทุกมุมแล้ว ก็หารอยรั่วไม่พบ เติมน้ำได้ระดับพอดี วิ่งไป 4-5 ร้อยกิโล น้ำบางส่วนจะหายไป ระดับน้ำลดลงไปจากเดิม ซึ่งท่านผู้ถามรู้สึกวิตกกังวลเป็นอย่างยิ่ง ผมก็ได้เสนอแนะสิ่งที่ควรจะแก้ไขเป็นลำดับ โดยมิอาจจะฟันธงเพราะเพียงอ่าน email ไม่ได้สัมผัสของจริง แต่ได้สรุปให้ว่าถ้าหาจุดรั่วไม่พบ ... ขั้นสุดท้ายต้องเปลี่ยนหม้อน้ำ

  • จากการที่ได้ทราบปัญหาที่เกิดกับ E34 ข้างต้น ทำให้คาดการณ์ได้ว่ามันจะต้องเกิดกับ E34 ทุกคันเป็นแน่แท้ เพียงแต่จะเกิดช้าหรือเร็วในแต่ละคันเท่านั้น ด้วยเหตุผลว่ามันใช้อะไหล่อย่างเดียวกัน รถ E34 ของผมก็ไม่มีสิทธิ์ .. ยกเว้นหรือ ..รอดไปได้

  • เพื่อให้หายสงสัย ว่ารถผมจะมีน้ำหายหรือไม่ ถ้าน้ำหาย ... จะหาอย่างไร ผมจึงทดลองอย่างเป็นงานเป็นการ เติมน้ำให้ได้ระดับพอดี แล้วใช้รถไปเรื่อยๆ ปล่อยให้โทรมๆ ไม่ดูแลมาก ไม่ทำความสะอาดบริเวณหม้อน้ำและท่อน้ำ เป็นเวลา 1 เดือน ผมคิดว่ามันน่าจะมีร่องรอยของการรั่วซึมให้เราสังเกตเห็นบ้าง

  • เมื่อครบเวลา 1 เดือน ทำการเปิดกระโปรงออกมาเบิ่ง .... ตรวจสอบระดับน้ำ ตัวหม้อน้ำ และท่อน้ำ ตรวจระดับน้ำพบว่าลดลงเล็กน้อยไม่น่าวิตกอะไร ตรวจที่ท่อน้ำไม่พบอะไรผิดสังเกต ตรวจที่ตัวหม้อน้ำพบคราบ (คล้ายน้ำเปียก) บริเวณขอบรอยต่อระหว่างอะลูมิเนียมกับพลาสติกไฟเบอร์ด้านข้างกระป๋องเก็บน้ำสำรอง ลองเช็ดคราบที่พบปรากฏว่าไม่ใช่น้ำ คือเช็ดไม่ออก (มันแห้ง) ก็เลยสัณนิษฐานว่าคงเป็นคราบของน้ำยาหล่อเย็นซึมออกมาพร้อมกับน้ำ แต่น้ำได้ระเหยไปหมด ทิ้งเพียงร่องรอยของน้ำยาหล่อเย็นไว้ให้เราเห็น

  • จากการทดลองข้างต้น หากมีธงและมีดคมๆ ก็สามารถฟันไปที่ธงได้เลยว่า น้ำที่หายไปจากหม้อน้ำของ E34 525i มันจะซึมออกมาตามขอบด้านข้างที่เป็นรอยต่อระหว่างอะลูมิเนียมกับพลาสติกไฟเบอร์ ... นี่แหละ ...ฟันธง

  • หาเหตุผลมาสนับสนุน ... ซักกะนิ๊ด ตามประสานักวิจัย คือว่าหม้อน้ำตอนที่ใช้งานมันจะร้อนมาก เกิน 80 องศา C หรือบางทีก็เฉียด 100 ความร้อนทำให้หม้อน้ำขยายตัว ตอนหม้อน้ำใหม่ๆ ทั้งวัสดุอะลูมิเนียมและพลาสติกไฟเบอร์ก็ขยายตัวตามสัดส่วนที่พอดีกันจึงไม่มีการรั่วซึม

    • เมื่อ ... หม้อน้ำเก่า ผ่านการใช้งานรับความร้อนขยายตัวหดตัวมานานเป็นสิบๆ ปี ทำให้โครงสร้างวัสดุอะลูมิเนียมและพลาสติกไฟเบอร์มีการล้า โครงสร้างผิดไปเล็กน้อย การขยายตัววัสดุทั้งสองชนิดไม่พอดีกัน อาจหดตัวเล็กลง ทำให้เกิดช่องเล็กๆ ที่รอยต่อ ประกอบกับน้ำร้อนมีแรงดันสูงจึงดันให้น้ำซึมออกมาได้บางส่วน

    • ถ้าซึมออกมากน้ำจะหายมาก ถ้าซึมน้อยอาจไม่ค่อยรู้สึกว่าน้ำหาย กรณีนี้สรุปเฉพาะหาการรั่วซึมที่อื่นไม่พบ ... และได้หาจนหมดปัญญาแล้วเท่านั้น ...นะครับ


    เมื่อได้พบความจริง .... ไม่ต้องกลัวคำขู่ของใครๆ เกี่ยวกับน้ำในหม้อน้ำหาย ... อีกต่อไป

No problem, We can do, Please continue ............ this DIY.
[upLoad on 30/09/2008]




    ตรวจหาสาเหตุ ... น้ำหายไปไหน

  • จุดที่ควรสังเกตน้ำรั่วซึม
  • ให้ดูตรงขอบรอยต่อที่มีคราบคล้ายการเปียกเยิ้มของน้ำ

    [Click เพื่อขยายภาพ]
  • ที่ขอบรอยต่อด้านข้างระหว่างอะลูมิเนียมกับพลาสติก
  • จุดต่าง ๆ เหล่านี้เป็นจุดที่น้ำจะรั่วซึมออกตอนหม้อน้ำร้อนและขยายตัว


    [Click เพื่อขยายภาพ]

   การตัดสินใจ ... เปลี่ยนหม้อน้ำ

  • จากการที่เราทราบสาเหตุของน้ำหายไปไหนนี้ ยังไม่น่าวิตกอะไร ยังไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนหม้อน้ำก็ได้ ให้หมั่นตรวจเติมน้ำที่กระป๋องน้ำสำรองให้ได้ระดับตรงขีดอยู่เสมอ ก็จะช่วยได้ เพราะน้ำจะไม่หายไปทันทีทันใด
  • กรณีเติมน้ำได้ระดับแล้ววิ่งใช้งานได้เป็นระยะสั้นๆ เช่น 40-50 กิโล น้ำลดลงไป 2-3 นิ้ว แบบนี้คงต้องเปลี่ยน
  • เพื่อความสบายใจก็ตัดสินใจเปลี่ยน (แบบผม) เพราะอายุมันมากแล้ว ของเพื่อนๆ เราก็เสียไปแล้ว (บ้า ... หรือเปล่า มันยังไม่รั่ว เปลี่ยนทำไม)
  • ที่กล่าวมาเป็นกรณีรั่วซึมเท่านั้น ถ้ารั่วพุ่งปริ๊ด หรืออะลูมิเนียมรั่วทะลุจนน้ำหยด อันนี้ต้องเปลี่ยน (หรือถอดออกมาซ่อม)

    สำหรับอะไหล่ตัวหม้อน้ำ จะใช้ของใหม่เอี่ยม ใช้ของเก่า มือ 1-2-3-4 หรือใช้ของเก่าซ่อม พิจารณาตามความพร้อมครับ

   เปลี่ยนหม้อน้ำด้วยตัวเอง ... ยากแค่ไหน และใช้เวลา ... นานไหม
  • งานนี้ไม่มีอะไรซับซ้อนพิสดาร ถอดหม้อน้ำเก่าออก แล้วเอาหม้อน้ำใหม่ใส่เข้าแทนให้เหมือนเดิม ... ก็เท่านั้น
  • อุปกรณ์บางตัวที่ยังใช้ได้ เช่น เซนเซอร์ ยางรอง .... ก็ถอดออกมาใส่กับหม้อน้ำใหม่ ... ก็เท่านั้น
  • มืออาชีพน่าจะใช้เวลาทำประมาณ 1 ช.ม. มือสมัครเล่นคงจะใช้เวลาสัก 3 ช.ม. ไม่น่าเกินครึ่งวัน ... ก็เท่านั้น

    ... ยกเว้นเตรียมน้ำ (beer) ไว้เติม ... เยอะเกินไป อาจต้องใช้เวลาทั้งวัน ... เมาเบียร์ ซะก่อน ...


ศึกษาชิ้นส่วนของ ... หม้อน้ำ ใน E34 525iA



    โปรดดูภาพด้านขวา

  • หมายเลข 1 คือ ตัวหม้อน้ำ แผงรังผึ้งระบายความร้อนทำจากอะลูมิเนียม ตรงขอบซ้าย-ขวาทำจากพลาสติกไฟเบอร์
  • หมายเลข 2-3-4-5-6 คือ ชุดชิ้นส่วนของกระป๋องเก็บน้ำสำรอง เวลาประกอบเสร็จจะเป็นชิ้นเดียวกับตัวหม้อน้ำ
  • หมายเลข 11-12 คือ น๊อตและแหวนใช้อุดรูเซนเซอร์สวิตช์อุณหภูมิน้ำ เขาอุดไว้กับตัวหม้อน้ำที่ซื้อมาใหม่
  • หมายเลข 15 คือ น๊อตที่ใช้อุดรูเซนเซอร์ระดับน้ำ เขาอุดไว้กับตัวหม้อน้ำที่ซื้อมาใหม่
  • หมายเลข 8 คือ สกรูไล่อากาศ ให้มาพร้อมกับตัวหม้อน้ำที่ซื้อมาใหม่
  • หมายเลข 9 คือ สกรูถ่ายน้ำ ให้มาพร้อมกับตัวหม้อน้ำที่ซื้อมาใหม่
  • หมายเลข 7 (A) คือ ฝาหม้อน้ำ (ต้องซื้อต่างหาก น่าจะเปลี่ยนใหม่พร้อมกับหม้อน้ำ)
  • หมายเลข 10 (B) คือ เซนเซอร์สวิตช์อุณหภูมิน้ำ (ตรวจสภาพก่อน : อาจใช้ตัวเดิม)
  • หมายเลข 13-14 (C) คือ เซนเซอร์ระดับน้ำ (ตรวจสภาพก่อน : อาจใช้ตัวเดิม)
BMW E34 525i Radiator
Reference Source; http://www.realoem.com/bmw/



   เตรียมอะไหล่
    หม้อน้ำใหม่

  • จัดเตรียมหม้อน้ำใหม่ของ E34 525i
  • ดูให้เหมือนของเดิม ขนาดเท่าเดิม กว้าง หนา สูง
  • รูจุดล็อค รูใส่เซนเซอร์ กระป๋องน้ำสำรอง



    หมายเหตุ ...............
  • ต้องดูหม้อน้ำให้ตรงกับรถของท่าน ว่ารวมกับระบายความร้อนเกียร์หรือเปล่า
  • ของผมเป็นน้ำอย่างเดียว ตัวระบายความร้อนเกียร์ออโต้เขาแยกต่างหาก

   ไปซื้อ ... หม้อน้ำใหม่

  • เมื่อเดือนมิถุนายน 2551 ผมมีโอกาสได้ไปสูดกลิ่นไอ (เสีย) ของรถในกรุงเทพฯ อยู่ 2-3 วัน ก่อนอำลาเมืองฟ้าอมร ลูกสาวเขาพาผมและบิ๊กสปอนด์เซอร์ไปที่หลังวัดโสมฯ กทม. เพื่อซื้ออะไหล่ BMW หลายรายการ ที่ร้านประจำ เจอเจ้ ... ที่ตัวเล็ก เสียงดัง ท่าทางบู๊ หน่อยๆ อัธยาศรัยดี ผมได้หม้อน้ำของ E34 มาด้วย งานนี้บิ๊กสปอนด์เซอร์รอจ่ายเงินอยู่หน้าร้าน เจ้คนขายเขาลดให้เหลือตัวเลขกลมๆ ถ้วนๆ แถมยังบอกอีกว่าคราวหน้าไม่ต้องขับรถมาซื้อเอง เปลืองน้ำมัน โทร.มาสั่งและโอนเงินมา เขาจะจัดส่งให้ .... เจ้เขาว่ายังงั้น

  • หม้อน้ำที่ผมได้มา ยี่ห้ออ่านไม่ออก (BEHR) แต่ถูกใจมากเพราะเหมือนของเดิมทุกประการ อุปกรณ์ประกอบเขามีให้ครบ คือมีตัวหม้อน้ำ กระป๋องน้ำสำรอง สกรูถ่ายน้ำ และสกรูไล่อากาศ (ไม่มีฝาหม้อน้ำให้ ต้องซื้อต่างหาก) รูสำหรับใส่เซนเซอร์ระดับน้ำกับเซนเซอร์สวิตช์อุณหภูมิน้ำเขาจะมีน๊อตอุดไว้ กล่องที่ใส่ก็อย่างดี สวย แข็งแรง ให้เขาแปะเทปกาวให้แน่นเพราะต้องเอาใส่รถทัวส์มาลำปาง

  • นอกจากนี้ อุปกรณ์ที่ผมซื้อเพิ่มเติม คือ คลิปล็อคด้านบนของหม้อน้ำ 2 ตัว และหมุดพลาสติกยึดกระบังลม 2 ตัว

  • ก่อนที่ผมจะไปซื้อหม้อน้ำ ได้ทำการบ้านไปก่อน จดรายการละเอียดเลย มีตัวหม้อน้ำ กระป๋องพักน้ำสำรอง โอริง คิดว่าจะเอามาประกอบเอง (ทั้งๆ ที่จะประกอบได้แน่นหนา แบบไม่รั่วได้หรือเปล่า ... ยังไม่แน่ใจ) พอไปถึงร้านขาย ไอ้เจ้าตัวหม้อน้ำนี้เขาได้ประกอบรวมสิ่งที่ผมต้องการไว้ทั้งหมดเรียบร้อยแล้ว ... นี่แหละที่ผมพอใจ เพราะยังไง ... ก็ชัวส์

  • กล่องนี้มีหม้อน้ำสำหรับใส่กับ BMW E34 525i
  • สีของกล่อง เขาออกแบบซะ ... ตามที่เห็น (อะไหล่ รถ .... นะเนี่ย)
  • ข้างในมีที่กันรังผึ้งให้ปลอดภัย จึงหายห่วงในการขนส่ง
  • เปิดกล่องเอาหม้อน้ำออกมา ตัวหม้อน้ำทำจากอะลูมิเนียม
  • มีอุปกรณ์ประกอบไว้ครบ ข้างซ้าย ข้างขวา
  • จะเห็นกระป๋องน้ำสำรอง สีขาว อยู่ทางซ้าย


    (ผมว่า "หม้อน้ำ" นี้ รูปทรงไม่ใกล้เคียง "หม้อ" ใดๆ เลย
    ... หรือท่านว่าไง ... ครับ)
  • ด้านบน มีสกรูไล่อากาศ ตัวสีดำ ใส่มาพร้อม
  • สกรูถ่ายน้ำ ที่ด้านล่าง ตัวสีฟ้า ให้มาพร้อมสมบูรณ์
  • ซ้าย : ยี่ห้อหม้อน้ำอันใหม่ ผลิตเมื่อ 28/07/07
    ผ่านทดสอบการรั่วแล้ว : ไม่รั่ว รับรอง
    LEAK TEST : OK
    ผ่านการตรวจสอบขั้นสุดท้าย : สมบูรณ์
    FINAL INSPECTION : OK
    Every thing OK
  • ขวา : ยี่ห้อหม้อน้ำอันเก่าที่ติดรถมา เขาก็ยัง OK อยู่นะ ... แต่อยากเปลี่ยน ...ok mai kra-rab
 
  • ตัวเล็กซ้าย เป็นหมุดยึดกระบังลมหลังหม้อน้ำ
  • ตัวใหญ่ขวา เป็นคลิปตัวที่ใช้ล็อคด้านบนหม้อน้ำ



    หมายเหตุ ...............
  • อะไหล่ 4 ตัวนี้ ถ้าตัวเก่าที่ถอดออกมาสภาพยังดีอยู่ ก็ใช้ตัวเก่า
  • ของผมตอนที่ถอด แงะรุนแรงไปหน่อย หักไป 1 ตัว จึงถือโอกาสเปลี่ยน

   เตรียมเครื่องมือ
    เตรียม......เครื่องมือ

  • ไขควงปากแบน 1 ตัว สำหรับถอดเข็มขัดรัดท่อน้ำ และถอดคลิปล็อคบนหม้อน้ำ
  • ประแจแหวนหรือปากตาย 8 ม.ม. 1 ตัว สำหรับถอด-ใส่สกรูยึด Gear Oil Cooling
  • ประแจปากตาย 22 ม.ม. สำหรับถอด-ใส่เซนเซอร์อุณหภูมิน้ำ
  • ประแจปากตาย 32 ม.ม. (หรือคีมปากกว้าง) สำหรับถอด-ใส่เซนเซอร์ระดับน้ำ

หมายเหตุ ........

งานนี้เพื่อความปลอดภัย ควรทำตอนที่เครื่องยนต์และน้ำระบายความร้อนเย็น หรือมีอุณหภูมิพอจับต้องได้ ... นะครับ



ขั้นตอน การถอดหม้อน้ำ ... ตัวเก่าออก
  • ถอดกระบังลมหลังหม้อน้ำ
  • ถอดพัดลมหน้าเครื่องยนต์
  • ปล่อยน้ำระบายความร้อนทิ้ง
  • ถอดปลั๊กเซนเซอร์ระดับน้ำ
  • และถอดท่อน้ำด้านล่าง ซ้าย
  • ถอดท่อน้ำด้านบน ซ้าย
  • ถอดท่อน้ำด้านล่าง ขวา
  • ถอดแผ่นยางกันลมหน้าหม้อน้ำ
  • ถอดน๊อตยึดแผงระบายความร้อน Gear Oil Cooler
  • ใช้ประแจ 8 ม.ม. ถอดน๊อตด้านบน 2 ตัว
  • ถอดคลอปตัวยล็อคด้านบนหม้อน้ำ 2 ตัว ด้านซ้ายและขวา
  • ใช้ไขควงแบน สอดเข้าไป โยกด้ามไขควงไปข้างหน้าตามลูกศร
  • ดันไขควงจนขอเกาะด้านล่างหลุดจากเหล็ก
  • เอาตัวคลิปล็อคออกมา โดยใช้ความระมัดระวัง เพราะอาจแตกหักได้
  • คลิปล็อคนี้สามารถใช้ตัวเดิมได้
  • ผมซื้อคลิปตัวใหม่มาเปลี่ยน จึงไม่ค่อยสนใจตัวเก่า
  • เอายางรองคลิปออกทั้งสองข้าง
  • เก็บไว้ให้ดี จะเอาไปใช้กับตัวหม้อน้ำใหม่
  • ถอดปลั๊กเซนเซอร์สวิตช์อุณหภูมิน้ำ
  • เซนเซอร์ตัวนี้มันเป็นสวิตช์ควบคุมรีเลย์พัดลมไฟฟ้าหน้าหม้อน้ำ
  • ตัวปลั๊กมีสายไฟ 3 เส้น ทำงาน 2 สเต็ป


    การทำงานของเซนเซอร์สวิตช์อุณหภูมิน้ำในหม้อน้ำ
  • อุณหภูมิน้ำต่ำกว่า 91 องศาลงมา เซนเซอร์สวิตช์ไม่ทำงาน พัดลมไฟฟ้าไม่หมุน
  • สเต็ป 1 อุณหภูมิน้ำระหว่าง 91-98 องศา เซนเซอร์สวิตช์ทำงาน ต่อไฟเข้ารีเลย์พัดลมสปีดแรก Lo พัดลมไฟฟ้าหมุนช้า
  • สเต็ป 2 อุณหภูมิน้ำ 99 องศาขึ้นไป เซนเซอร์สวิตช์ทำงาน ต่อไฟเข้ารีเลย์พัดลมสปีดที่สอง Hi พัดลมไฟฟ้าหมุนเร็ว เสียงดัง
  • เอียงหม้อน้ำไปทางเครื่องยนต์
  • จะเห็นแผงระบายความร้อนของน้ำมันเกียร์ออโต้ติดกับหม้อน้ำ
  • ต้องถอดน๊อตด้านล่างออก 2 ตัว เบอร์ 8
  • พื้นที่แคบมองไม่ค่อยถนัด ต้องก้มแล้วใช้มือคลำๆ จะพอถอดได้
  • ตอนนี้หม้อน้ำเป็นอิสระ ปราศจากสิ่งพันธนาการ ยกตัวหม้อน้ำออกมาข้างนอกรถ
  • ที่เห็นอยู่ก็คือ แผงระบายความร้อนน้ำมันเกียร์ และแผงระบายความร้อนแอร์
  • เป็นโอกาสดี ที่โล่งๆ ทำความสะอาดซะ .... ใช้ลมเป่า น้ำล้าง แปรงขัด ให้สะอาด อยู่มาตั้งเป็นสิบปี เพิ่งจะมีโอกาสวันนี้แหละ
  • ระวัง .... อย่าทำแรง ครีบรังผึ้งระบายความร้อนมันจะบี้ ... เสียหาย
  • ตัวหม้อน้ำที่ถอดออก
  • เอาหม้อน้ำตัวเก่า มาวางใกล้ๆ กับตัวใหม่
  • เปรียบเทียบ เหมือนกัน และเท่ากัน
  • ดูอีกด้าน ของเก่ามันเป็นสนิม ... ใหม่กว่าหน้าตา .....
  • สัจจะธรรม เกิด โต เต่งตึง เหี่ยวย่น ...... ทรุดโทรม เสีย ... เป็นทอมอดอ ธรรมดา ....
  • ถอดอุปกรณ์ที่ติดอยู่กับหม้อน้ำตัวเก่า เพื่อจะเอาไปใส่กับตัวใหม่
  • ถอดลูกยางออกทั้งสองข้างของหม้อน้ำ มีข้างละ 1 ตัว เหมือนกัน
  • ถอดเซนเซอร์สวิตช์อุณหภูมิน้ำ
  • ใช้ประแจ 22 มิล
  • ถอดตัวคลิปสำหรับขันสกรู มี 2 ตัว
  • เป็นตัวที่จะขันเกลียวน๊อตยึดแผงระบายความร้อนน้ำมันเกียร์
  • ตอนถอดต้องดูตำแหน่งให้ดี เพราะต้องใส่กับหม้อน้ำใหม่ตำแหน่งเดียวกัน
  • ขั้นตอน การใส่หม้อน้ำ ... ตัวใหม่
  • เอาหม้อน้ำใหม่ออกจากกล่อง ระวังครีบรังผึ้งอย่าให้ถูกของแข็ง
  • ตรวจทำความสะอาด เอาลมเป่า อย่าให้มีอะไรคาอยู่ในท่อน้ำ
  • เอาเซนเซอร์สวิตช์อุณหภูมิน้ำใส่เข้ากับหม้อน้ำใหม่
  • เอามือหมุนเข้าจนสุดเกลียว
    (ก่อนนำเซนเซอร์มาใส่ ควรเช็ด ล้าง ทำความสะอาดให้เรียบร้อย)
  • ใช้ประแจช่วยขันให้แน่น พอตึงมือ
  • ขันแค่พออยู่เท่านั้น .... ไม่ต้องขันแน่นมาก
  • ผมถือโอกาสเปลี่ยนเซนเซอร์ระดับน้ำในคราวนี้เลย
  • ตัวเซนเซอร์ใหม่ๆ ซิงๆ อยู่ในมือแล้ว
  • ต้องถอดน๊อตที่อุดไว้ใต้กระป๋องน้ำสำรองออก
  • เอาตัวเซนเซอร์ระดับน้ำใส่เข้าไป
  • ตรวจให้แน่ใจว่ามีโอริงกันรั่วได้ใส่ไว้แล้ว
  • ใช้มือหมุนเกลียวเข้าจนสุด หันปลั๊กเสียบไฟฟ้ามาทางเดียวกับท่อน้ำ
  • ใช้คีมปากกว้างหรือประแจ 32 มิล ช่วยขันให้แน่นอีกนิดหน่อย ไม่ต้องแรงเอาแค่อยู่ น้ำไม่รั่ว
  • ใส่ลูกยางรองหม้อน้ำด้านซ้าย
  • ใส่ลูกยางรองหม้อน้ำด้านขวา
  • ใส่ยางรองคลิปล็อคด้านบนหม้อน้ำ ทั้งสองข้าง
  • ตอนนี้หม้อน้ำตัวใหม่ได้ติดอุปกรณ์พร้อมแล้ว
  • ยกเข้าไปติดตั้งในรถ โดยต้องติดแผงระบายความร้อนน้ำมันเกียร์เข้าไป
  • ใช้น๊อตตัวเดิมหัว 8 มิล ยึดแผงระบายความร้อนน้ำมันเกียร์ ใส่ให้ครบทั้ง 4 ตัว ด้านบน 2 ตัว และด้านล่าง 2 ตัว

    ระวัง .... ครีบหม้อน้ำ หน่อยนะครับ ...........

  • ตั้งหม้อน้ำตรงตามตำแหน่งเดิม ให้ลูกยางตรงเบ้าซ้าย-ขวา
  • ใส่คลิปล็อคบนหม้อน้ำทั้ง 2 ตัว ลองโยกดู ต้องไม่หลุด
  • ใส่ท่อน้ำด้านล่าง ขวา ขันสกรูรัดเข็มขัดให้แน่น
  • เสียบปลั๊กเซนเซอร์สวิตช์อุณหภูมิน้ำ
  • ใส่ท่อน้ำด้านล่าง ซ้าย ขันสกรูรัดเข็มขัดให้แน่น
  • เสียบปลั๊กเซนเซอร์ระดับน้ำ
  • ใส่ท่อน้ำด้านบน ขันสกรูรัดเข็มขัดให้แน่น
  • ใส่พัดลมหน้าเครื่องยนต์
  • ใส่กระบังลมหลังหม้อน้ำ
  • ใส่หมุดล็อคกระบังลมหลังหม้อน้ำ ทั้ง 2 ข้าง

  • ตรงนี้ เพื่อนผม (มัน) ใช้ลวดมัดไว้ ผมปวดใจ ... แทนครับ
  • เที่ยวหน้า คงต้องซื้อหมุดล็อคไปฝาก (มัน) ซัก 2 ตัว
  • เปิดกระโปรง ห้องเครื่อง หมดอารมณ์ ... สงสาร แบรนด์เนม ... BMW
  • เติมน้ำสะอาดเข้าไปในกระป่องน้ำสำรอง
  • งานนี้ บิ๊กสปอนด์เซอร์ ขอมีส่วนร่วม
  • เติมน้ำยาหล่อเย็น และกันสนิม
  • ติดเครื่องยนต์ บรื้นๆ ๆ ๆ เร่งบ้าง เบาบ้าง
  • ให้เครื่องร้อน ไส่อากาศออกที่สกรู
  • เติมน้ำให้ได้ระดับ ตรงขีดบน
  • ตรวจความเรียบร้อยทุกจุดที่เราทำ
  • ปิดฝาหม้อน้ำ
  • ตรวจการรั่วตรงที่ต่อท่อยางทั้ง 3 แห่ง
  • ตรวจการรั่วที่เซนเซอร์ระดับน้ำ และเซนเซอร์สวิตช์อุณหภูมิน้ำ

    Now the E34 car ready to use ...
  • ผลการใช้งาน

  • อุณหภูมิจากเกจภายในรถ ราว 11 โมงครึ่ง .... ก่อนเที่ยงเสมอ
  • เขาก็จะอยู่ระดับนี้ตลอด ทั้งวิ่งทางใกล้ วิ่งทางไกล
  • โดยปกติพัดลมไฟฟ้าจะยังไม่ทำงาน
  • อุณหภูมิน้ำประมาณ 80 - 90 องศา

  • พัดลมไฟฟ้าจะทำงานตอนที่แดดร้อนร้อนมากๆ ... ครับ
    ได้ยินเสียงพัดลม สปีดแรกเสียงเบาหน่อย สปีดที่ 2 เสียงดังมากกว่า
    ส่วนเข็มความร้อน สังเกตว่าอยู่ที่เดิม ก่อนเที่ยง ... เสมอ
  • งาน DIY ของเราก็สำเร็จไปอีก 1 รายการ

    ผมเปลี่ยนหม้อน้ำเมื่อ 10/07/2008
    ที่ระยะทาง 121,065 km.
    บันทึกไว้บนหม้อน้ำ

    เสร็จแล้ว ลองวิ่งทดสอบดู ทดลองใช้งานไปทางไกล หรือวิ่งในเมือง มั่นใจและหายห่วงเรื่องความร้อนขึ้น .....ไปได้เลยละครับ

    … very good job.

    สรุปค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนหม้อน้ำรถ BMW E34 525i
  • หม้อน้ำใหม่เอี่ยม 5,200 บาท
  • คลิปล็อคบนหม้อน้ำ 2 ตัว 130 บาท
  • หมุดล็อคกระบังลมหลังหม้อน้ำ 2 ตัว 30 บาท
  • รวมค่าใช้จ่าย 5,360 บาท     (ข้อมูล ราคา เมื่อ 27/06/2008)

  • ท้ายของเพจนี้ Rate X ...สามารถชมได้ทุกวัย
    มีภาพบั้นท้ายของน้อง X...5 ฝากท่านผู้อ่าน
    ทะเบียนสุดหล่อ ...! 4444 สี่สี่สี่สี่
    ถ่ายมาจากละแวกบ้านเกิดของเขานั่นแหละ Deutschland ... ประเทศเยอรมันนี


    ดีนะครับ ... ที่รถคันนี้อยู่ที่ประเทศเยอรมัน
    ถ้าอยู่แถวๆ อิสานบ้านเฮา หรือประเทศลาวละก้อ ....
    ข้อย สิ บ่ กล้าเว้า ... เลขทะเบียน อันนี่ เล้ย !
    .... แม่นบ๊อ
    Rate X ...


    Homepage of Associate Professor BOONCHAT NETISAK
    Copyright © by BOONCHAT NETISAK, All Rights Reserved.


    [ BMW E34 DIY MAIN MENU ]