BMW E34 DIY

เปลี่ยนผ้ากำมะหยี่ใต้กระจกหลัง
How to replace the velvet rear deck. (behide back seats).
l โดย รองศาสตราจารย์บุญชัด เนติศักดิ์ l l MAIN MENU l

ปัญหาของผม .... ต่อเนื่องจากการเปลี่ยนผ้ากำมะหยี่หลังคา
------------------------------------------------------------------------------------------------

ผ้ากำมะหยี่หลังคาในรถ BMW E34 ที่มันย้วย หย่อนยานเป็นท้องช้าง เพราะความชราภาพของมัน เราก็ได้เปลี่ยนให้เต่งตึงเป็นหนุ่มสาวรุ่นกะเตาะเรียบร้อยแล้ว แต่มันยังมีอีกชิ้นหนึ่ง อยู่หลังพนักพิงใต้กระจกหลัง ตรงที่มีม่านบังแดดหลังขึ้นลง และมีลำโพง 2 ข้าง

  • บนแผงตรงกลางใต้กระจกหลังนี้ บางคนมักเอาหมวกวางโชว์ไว้ หมวกบางใบในรถบางคันมันจะเบ่งพลังอำนาจออกมา อาจมีผลให้ผู้คน .... หรืออย่างอื่น เมื่อแลเห็นหมวกแล้วอาจต้องซิ่งหนีไปพร้อมกับสดุดีด้วยถ้อยคำสั้นๆ หรือไม่ก็อาจจะวิ่งเข้าไปซูฮกใกล้ๆ .....เพราะมันเป็น ...หมวกยันต์

  • ตรงนี้เราอาจไม่ค่อยจะได้ดูแลมากนัก จึงอาจเป็นที่สะสม (สุสาน) ของซากแมลงที่ตายเนื่องจากออกจากรถไม่ได้ มันก็ทำมาพร้อมกับหลังคา มันไม่ย้วยแต่มันจะเหี่ยวย่น ลองใช้ 2 นิ้ว (หัวแม่มือกับนิ้วชี้) จับดูผ้าทำนองกับที่เราจับผิวหนังของเรา ถ้าจับและดึงยก ... ยืด ... ขึ้นได้ แสดงว่า (แก่ ... หนังเหี่ยว) ฟองน้ำข้างในมันเสื่อมสลายแล้ว

    ในเมื่อมันไม่ย้วย มันยังวางอยู่บนแผงหลัง จะไปเดือดร้อนทำไม ? ฟองน้ำใต้ผ้ากำมะหยี่ที่หมดอายุ สภาพมันจะยุ่ยเป็นผง มีกลิ่นที่ผมไม่ชอบ บิ๊กสปอนเซอร์ของผมเขาก็ไม่ชอบ บ่นว่าเหม็น อีกทั้งเราก็ได้เปลี่ยนชิ้นหลังคาไปแล้ว เปลี่ยนเพิ่มอีกชิ้นก็ดีจะได้เป็นเพื่อนกัน รถของเราได้ชิ้นส่วนใหม่ๆ กลิ่นใหม่ๆ บ้าง คงจะดีขึ้นนะครับ แต่ถ้าใครชมชอบกลิ่นฟองน้ำเก่าๆ จะไม่เปลี่ยนก็สุดแต่ชอบครับ

    ความยากง่ายสำหรับงานนี้ มันจะอยู่ที่การถอดพนักพิงเบาะหลังครับ เบาะรองนั่งถอดไม่ยาก ออกแรงดึงขึ้น 2 กึ๊บ ก็ออกเรียบร้อย แต่การถอดพนักพิงต้องเล่นกันนานหน่อย ..... จนเหงื่อไหลนั่นแหละ ผมต้องให้ระฆังช่วย พักดื่มกาแฟก่อน แล้วจึงตั้งหลักคลำหาน๊อต ว่ามันติดตรงไหน ...ช้าหน่อยแต่ถอดได้ครับ




    No problem, We can do, Please continue ............ this DIY.
    ------------------------------------------------------------------------------------------------



  • การเปลี่ยนผ้ากำมะหยี่แผงใต้กระจกหลังของ e34
    ขั้นตอนต่อไปนี้
    ทำหลังจากถอดเบาะหลังเรียบร้อยแล้วนะครับ




    ข้อควรระวัง
  • มีแผงฟิวส์ รีเลย์ กล่องแอร์แบค กล่องควบคุม อยู่ใต้เบาะหลัง
  • อย่าเยียบ หรือทับแรง นะครับ เดี๋ยวมันจะพัง
  • เบาะรองนั่งด้านหลังที่ถอด เอาออกไว้นอกรถ
  • พนักพิงเบาะหลังมันติดเข็มขัดนิรภัย ให้พิงไว้กับเบาะหน้า
  • ใช้ไขควงแงะฝาปิดลำโพงออก ถอดทั้ง 2 ด้าน ซ้าย - ขวา
  • สังเกตพวกฉนวนอย่างดี กันเสียง กันร้อน ที่บุไว้มาตรฐานดีมากๆ อย่าทำขาด
  • เอาหมุดพลาสติกสีดำที่ยึดแผงกำมะหยี่ใต้กระจกหลังออก
  • ตรงกลาง 2 ตัว และที่ข้างซ้าย-ขวา ข้างละตัว
  • ดึงยางกระดูกงูขอบประตูหลังออกเล็กน้อย พอให้พ้นขอบของแผ่นที่ปิดข้างประตูใต้กระจกหลัง
  • ใช้ไขควงแงะชุดสวิตช์ไฟส่องสว่างด้านหลังออก และถอดขั้วเสียบออก
  • ใช้มือดึงขอบแผ่นที่ปิดข้างให้เผยอขึ้นจนหลุดจากล็อก แล้วดึงแผงมาด้านหน้า ออกแรงหน่อย
  • ถอดทั้ง 2 ด้าน ซ้าย - ขวา
  • เผยอด้านหน้าของแผงขึ้น ดึงแผงออกมาข้างหน้า มีล็อกเสียบที่ใต้กระจก 4 ตัว
  • ดึงแผงออกมา ดูสายมอเตอร์ เอามือบีบปลั๊กออก
  • เอาแผงกำมะหยี่อกมาข้างนอกรถ
  • ผ้ากำมะหยี่ที่ถอดออกแล้ว
  • แถบดำยาวเป็นม่านกันแดด
  • ช่องสี่เหลี่ยม 2 ข้างสำหรับฝาปิดลำโพง
  • ตัวสามเหลี่ยมสีดำ ตรงกลาง เป็นตัวเสียบเก็บเข็มขัดนิรภัย
  • ผ้ากำมะหยี่ที่เก่าแล้วจะเห็นรอยย่นชัดเจน
  • ฟองน้ำข้างในเสื่อม
  • กลิ่นเหม็น....ด้วยนะครับ ลองดมดู
  • พิสูจน์กลิ่นด้วยจมูกของคุณ ....ก็จะรู้ว่าจริง หรือไม่จริง ตามที่ผมว่ามา
  • ดูรหัสรายการผลิตอะไหล่นี้
  • ราวกลางปี 1995
  • ดูอุปกรณ์ที่อยู่ใต้แผงกำมะหยี่
  • มีมอเตอร์เปิดปิดม่านหลัง
  • มีก้านอะลูมิเนียมดันให้ม่านเลื่อน
  • มีกล่องอิเล็กทรอนิกส์ควบคุมมอเตอร์
  • มีอะลูมิเนียมใส่ม่าน และตัวยึด ตัวล็อกสีดำ
  • ติดตั้งไว้ข้างใต้แผงกำมะหยี่นี้
  • ถอดม่านกันแดดหลัง ตามขั้นตอนต่อไปนี้
  • ใช้ไฟ DC 12 โวลต์ (ใช้ไฟจากแบตฯ ก็ได้) ต่อเข้าที่ปลั๊กของมอเตอร์
  • ไฟขั้วบวกต่อเข้าที่สายสีน้ำเงิน ขั้วลบต่อเข้าที่สายสีดำ
  • ใช้ต่อแบบเขี่ยๆ ให้มอเตอร์หมุน ขยับก้านดันม่านกางออก แล้วจึงเอาไฟออก (ห้ามต่อแช่)
  • ที่ปลายก้านยึดม่านกันแดดหลังทั้ง 2 ปลาย
  • จะมีพลาสติกสีดำเป็นตัวปิดหัวม่าน ต้องถอดตัวนี้ออกจึงจะเอาม่านออกได้
  • ขันสกรูตัวเล็กที่ตัวปิดหัวม่านออก
  • สกรูหัวแฉกขันล็อกตัวปิดหัวม่าน
  • ตัวมันเล็ก ถอดแล้วเก็บให้ดี
  • ตัวปิดหัวม่านเมื่อถอดออก
  • ปลายที่เป็นขอ ใช้สำหรับล็อกกันหลุด
  • เวลาถอดแงะตัวล็อกขึ้น
  • ตัวม่านจะยังคงติดอยู่
  • ใช้ไฟต่อเข้ามอเตอร์อีกครั้ง ใส่ไฟตรงข้ามกับตอนแรก
  • ไฟขั้วบวกต่อเข้าที่สายสีดำ ขั้วลบต่อเข้าที่สายสีน้ำเงิน
  • ให้มอเตอร์หมุนกลับทาง ม่านจะพับเก็บ
  • ถอดมอเตอร์ และก้านยันออก
  • ไขสกูหัวแฉก สีดำ 3 ตัว
  • ถอดกล่องควบคุมมอเตอร์ม่าน
  • ถอดอะลูมิเนียมที่เป็นขารองม่าน มีน๊อต เบอร์ 10 จำนวน 6 ตัว ถอดออก
  • ขารองม่านใช้มือดันออก
  • ชุดม่าน ดึงออกด้านหลัง ใช้มืออ้าช่องบนแผงไม้ ให้ชุดม่านหลุดลอดช่องออกไป
  • กล่องควบคุมมอเตอร์เปิดปิดม่าน
  • มันยังใช้งานได้ดี แต่อยากดูจึงแกะออกมาดู
  • มีรีเลย์ 2 ตัว และตัวต้านทาน
  • อีกด้านเป็นไอซี และตะกั่วบัดกรี ลายวงจร
  • เห็นแล้ว .... หายสงสัย
  • ใส่ไว้ในกล่องเหมือนเดิม
  • เอาแผงกำมะหยี่ที่ถอดแล้ว ไปลอกผ้าออก และทำความสะอาด
  • ใช้ผ้าชุบน้ำหมาดๆ เช็ดเศษฟองน้ำออก
  • พอถูกน้ำ ฟองน้ำเก่าที่หมดอายุจะออกหมด อย่างเกลี้ยงเกลา หมดจด
  • แผ่นโครง ด้านหน้า ลอกกำมะหยี่เดิมออกเรียบร้อยแล้ว
  • แผ่นโครง ด้านหลัง เมื่อถอดอุปกรณ์ออกหมดแล้ว
  • พร้อมเอาไปบุผ้ากำมะหยี่
  • ผมให้ร้านเขาบุผ้าให้ เลือกสีเหมือนกับหลังคา
  • พร้อมตกลงให้ใช้กาวอย่างดี กลิ่นไม่แรง
  • ตอนนี้บุผ้ากำมะหยี่แล้ว คว่ำเตรียมติดอุปกรณ์
  • จะมองเห็นช่องสำหรับขึ้นลงของม่านหลัง
  • เขาพับกำมะหยี่ติดกาวไว้ด้านหลัง

    หมายเหตุ
  • เน้นความสะอาดหน่อยนะครับ มือต้องสะอาด พื้นที่รองทำต้องสะอาดด้วย
  • ประกอบชิ้นส่วนด้านหลังแผงกำมะหยี่
  • ใส่ชิ้นส่วนให้ครบ ขันน๊อต สกรูให้แน่น


  • ใส่แผงกำมะหยี่กลับเข้าที่เดิม
  • เสียบปลั๊กอุปกรณ์ต่างๆ ที่ถอดเข้าที่เดิม
  • ใส่แผงปิดข้างและแผงไฟเข้าที่เดิมทั้ง 2 ด้าน
  • ใส่ฝาลำโพงเข้าที่เดิมทั้ง 2 ด้าน
  • ใส่หมุดยึดแผงให้ครบ
  • ใส่พนักพิงเบาะหลัง ขันน๊อตทุกตัวให้แน่น
  • ใส่หมอนรองศีรษะ
  • ใส่เบาะรองนั่งหลัง ดันให้ลงล็อกทั้งสองข้าง



    ทดสอบ
  • กดสวิตช์ทดสอบการขึ้นลงของม่านบังแดดหลัง
  • ม่านต้องเปิดขึ้นได้ดี และพับเก็บลงล็อกสนิท
  • ตรวจสอบเข็มขัดนิรภัยเบาะหลัง 3 เส้น ให้ใส่และใช้งานได้เหมือนเดิม
  • หมายเหตุ
  • ชิ้นส่วนที่ถอดออก ก่อนใส่ควรทำความสะอาดด้วย
  • แผงปิดข้างถ้ามีรอยมือดำ ใช้แปรงสีฟันจุ่มน้ำผสมยาล้างจานนิดหน่อยขัดออก ให้เอี่ยมก่อนใส่คืนนะครับ
  • ถ้ามีเส้นผม เส้นขน ติดที่แผงกำมะหยี่ ใช้เครื่องดูดฝุ่นดูดไม่ออก ให้ใช้แปรงสีฟัน แปรงๆ ถูๆ ออก จะสะอาดและดูเรียบขึ้น


    สรุปค่าใช้จ่ายการเปลี่ยนผ้ากำมะหยี่ใต้กระจกหลังภายในรถ BMW E34
    ค่าบุเปลี่ยนผ้ากำมะหยี่แผงหลัง ประมาณ 1500 บาท



  • เราก็ได้เปลี่ยนผ้ากำมะหยี่ใต้กระจกหลังภายใน E34 ที่มันเหี่ยว ย่น ให้เต่งตึง และมีกลิ่นดีขึ้น ....สำเร็จ ด้วยวิธี DIY แบบง่ายมากๆ


    ที่สำคัญ... มันภูมิใจ เพราะเป็นฝีมือเราเอง ...

    … very good job.


    Homepage of Associate Professor BOONCHAT NETISAK
    ADDRESS : 99/60 soi 9 PAHONYOTHIN ROAD AMPHER MUANG, LAMPANG THAILAND 52100
    Copyright © by BOONCHAT NETISAK, All Rights Reserved.

    [ BMW E34 DIY MAIN MENU ]