 |
เปิดฝากระโปรงห้องเครื่อง ปกติจะมีฉนวนกันร้อน สีดำ บุไว้ใต้ฝา
ฉนวนนี้ บางคนก็ว่า กันความร้อนขึ้นฝากระโปรง ช่วยรักษาสีรถ
บางคนก็ว่า ช่วยรักษาความร้อนในห้องเครื่องไว้นานๆ ไม่ให้เย็นเร็วเกินไป
บางคนว่า ใส่เพื่อความสวยความงาม ยามเปิดฝากระโปรง ...โชว์
ปู่ได้ยินเหตุผล ของหลายคน ก็พยักหน้า .... อือ ๆ ... เห็นด้วยกับทุกเสียง
|
 |
เคยสังเกตตรงวงกลมเขียวไหม หลังจากตากฝน หรือเล่นน้ำสงกรานต์ ลองเปิดดู
ถ้าไม่อยากรอตอนฝนตก หรือสงกรานต์ ก็เอาน้ำฉีดบนฝากระโปรงเน้นตรงหัวฉีดน้ำล้างกระจก สัก 4-5 นาที แล้วเปิดฝากระโปรงดู ก็ได้
จะเห็นรอยน้ำหยดเปียกที่ฉนวน มากน้อยตามอาการรั่วของแต่ละคัน รั่วนิดหน่อยไม่เป็นอะไร ถ้ารั่วมากอาจลงไปบนเครื่องยนต์ ไปถึงรูเบ้าหัวเทียน การวิเคราะห์หาที่มาของน้ำจะปวดหัวมาก
|
 |
กรณีที่น้ำรั่วจากบนฝากระโปรงตรงหัวฉีดน้ำล้างกระจกนี้ การเข้าถึงเพื่อแก้ไข ต้องเปิดแผ่นฉนวนด้านบนออก สังเกตดูมีสกรูพลาสติกยึดไว้ เราจะต้องถอดออกบางตัว
|
 |
ใช้ไขควงหัวแฉก คลายสกรูออก
|
 |
เอาสกรูออก
|
 |
ค่อยๆ แงะพุก ตัวยึดฉนวนออก
ลักษณะของพุก มีสองขาอ้า เมื่อถอดออก เก็บรวมไว้ให้ดี ถ้าตกไปในเครื่องจะหาลำบากและเสียเวลา
|
 |
เมื่อถอดพุกออกแล้ว ค่อยๆ ดึงแผ่นฉนวนเผยอขึ้น มองเข้าไปข้างใน ใต้ฉนวน
|
 |
ที่เห็นสายไฟ ปลั๊กไฟ ติดอยู่กับส่วนล่างของตัวฉีดน้ำล้างกระจก
[ การเข้าถึง เพื่อปฏิบัติการกับตัวฉีดน้ำนี้ อาจต้องมีเก้าอี้ที่แข็งแรงรองเหยียบ พิจารณาดูว่าใครตัวเตี้ย-ตัวสูง เอื้อมมือถึง-ไม่ถึง ]
|
 |
ปลั๊กไฟจะมีขาเสียบยึดคร่อมบนตัวฉีดน้ำ ดึงปลั๊กออกมาได้ทั้งชุด ส่วนปลั๊กจะถอดหรือไม่ถอดก็ได้
ตอนที่ปู่ทำยังไม่รู้ว่ามันคืออะไร ถอดไว้ก่อน หลังจากทำแล้วจึงรู้ว่าไม่จำเป็น
|
 |
ร่องรอยน้ำที่รั่วลงมา คราบที่เห็นเป็นคราบจากน้ำยาขัดสี แว๊กซ์ขัดสี ที่รั่วลงมา
ขนาดผงแว๊กซ์ยังรั่วลงมาได้ แล้วน้ำจะไปเหลือเร๊อะ รั่วลงมาแหงๆ อยู่แล้ว
|
 |
เริ่มการถอดตัวฉีดน้ำ จะต้องดันออกไปบนฝากระโปรง ด้านนอก
|
 |
ใช้นิ้วคลำไปบีบด้านล่าง มีครีบล็อก บีบแล้วขยับตัวฉีดน้ำ พร้อมกับดันให้ออกไปบนฝากระโปรง
|
 |
ตัวฉีดน้ำถูกดันโผล่ออกมาบนฝากระโปรง ด้านนอก
|
 |
ดึงตัวฉีดน้ำมาพิจารณาดู
|
 |
ดูอีกด้าน
|
 |
ที่ล๊อกยึดติดฝากระโปรง ดูไว้จะได้รู้ว่า บีบอย่างไรจึงจะได้เรื่อง
|
 |
พิจารณาดู จุดที่น้ำน่าจะรั่วลงได้ คือตรงมุม ตัวฉีดน้ำปิดไว้นิดเดียว หมิ่นเหม่มาก โอกาสรั่วมีมาก
สมัยหนุ่มสาวตอนที่รถยังใหม่อยู่ พลาสติกของตัวฉีดน้ำยังคุณภาพดี ฟิตเปรี๊ยะ น้ำรั่วไม่ได้
พอชราอายุรถมาก สังขารก็เสื่อม ไม่ฟิต น้ำรั่วได้ เป็นธรรมดา สังเกตดูเอง รถใครรั่ว ไม่รั่ว
|
 |
พิจารณา รู ฉีดน้ำ มีสองรู ถ้าตันก็แหยง
|
 |
เสร็จจากตัวฉีดน้ำด้านขวา ก็มาทำทางด้านซ้าย
|
 |
คลายสกรู เปิดแผ่นฉนวนกันร้อน เพื่อเข้าถึงตัวฉีดน้ำล้างกระจก
ทำเช่นเดียวกับด้านขวา ซึ่งจะเห็นปลั๊กสายไปเสียบยึดคร่อมอยู่กับตัวฉีดน้ำ
|
 |
ดึงชุดปลั๊กสายไฟออก แล้วใช้มือบีบกดล็อก ดันตัวฉีดน้ำออกไปบนฝากระโปรง ด้านนอก
|
 |
ตัวฉีดน้ำล้างกระจก ถูกดันออกมาบนฝากระโปรง ด้านนอกแล้ว ทั้งสองตัว
|
 |
ค้นหาวัสดุที่จะมาอุดรั่ว ดูในโรงรถ ค้นหลายกล่อง
ซิลิโคนดำนี้ เคยซื้อมานานแล้ว บีบดูยังเหลว จะใช้ซิลิโคนนี้อุดรั่ว เป็นซีลกั้นน้ำรั่ว
แบบไหนก็ได้ ที่อุดประสานกันน้ำรั่ว ความจริงงานนี้ใช้นิดเดียว
|
 |
ทาซิลิโคนบริเวณขอบ รอบรูที่ใส่ตัวฉีดน้ำ ไม่ต้องมาก แต่ต้องทาให้รอบ
|
 |
กดตัวฉีดน้ำลงไป ซิลิโคนจำนวนหนึ่งจะล้นขอบออกมา
ปล่อยไว้อย่างนี้ก่อน แล้วค่อยเช็ดออกภายหลัง
|
 |
ไปจัดการด้านใต้ฝากระโปรง ใช้ซิลิโคนยารอบตัวฉีดน้ำ ตรงแนวขอบที่ติดกับเหล็กฝากระโปรง
เน้นว่า ยา ....... ซิลิโคนให้รอบนะครับ เป็นการป้องกันรั่วสองชั้น
|
 |
ปลั๊กสายไฟจัดการเอาเสียบคร่อมยึดกับตัวฉีดน้ำ ให้เรียบร้อยเหมือนเดิม
|
 |
เช็ดซิลิโคนที่ล้น เลอะรอบตัวฉีดน้ำล้างกระจก ดูให้สะอาดเรียบร้อย
อาจมีคำถามว่าใช้อะไรเช็ด .... ... คำตอบ คือ ใช้ผ้าชุบน้ำพอหมาดๆ เช็ด
|
 |
ทิ้งไว้ให้ซิลิโคนอยู่ตัว อย่าไปจับหรือขยับ ปล่อยนิ่งไว้
ตอนนี้เราหยุดพัก นั่งจิบกาแฟ ให้หายเหนื่อย
เรียบร้อยแล้ว ได้แค่นี้ ...... ฝีมือของปู่
|
 |
ขั้นสุดท้าย ใส่พุก ล็อกฉนวนทุกตัว ขันสกรู ตรวจขันทุกตัว
|