อาการก่อนซ่อม
1. วอร์มสักพักประมาณ 4-5 นาที ควันขาวออกท่อไอเสียมากๆๆๆ
2. เสียงเครื่องยนต์ดัง ปุ๊บๆ ปั๊บๆ เครื่องยนต์เดินไม่เต็มสูบ
3. เหม็นกลิ่นน้ำมันเบนซินออกท่อไอเสียมากๆๆ จนกลัวมันระเบิด
4. ถ้าเราบิดสวิตช์กุญแจไปที่ ON ยังไม่สตาร์ท จะได้ยินเสียงหัวฉีดมันทำงานเสียงคล้ายไฟชอร์ต
การซ่อม
จากข้อ 1 คิดว่าเทอร์โบมันเสีย มีน้ำมันเครื่องรั่ว จัดการรื้อ ถอดออกมาดู ซึ่งการถอด-ใส่กลับคืนยากมากๆ ใช้เวลาหลายวัน ปรากฏว่าไม่ใช่ มันยังโอเค ใช้ได้ ไม่เสีย เราเกาไม่ถูกที่คัน
จากข้อ 2 ต้องตรวจดูหัวเทียน คอยล์จุดระเบิด ตัวอิกนิเตอร์ แคมเซ็นเซอร์ ทดลองเอาตัวอื่นมาเปลี่ยนแล้ว อาการไม่ดีขึ้น
จากข้อ 3-4 มันน่าจะมีสายไฟชอร์ต รื้อสายไฟออกมา แถวๆ ท่อร่วมไอดี เห็นจะจะ ว่าสูบ 3 กับสูบ 5 มันชอร์ตดังแซตๆ มันเกเร ฉีดน้ำมันออกเกือบตลอด เปลี่ยนสายใหม่มันซะเลย ชัวส์แน่(คิดเอง) แต่ไม่ดีขึ้น อาการยังเหมือนเดิม คนซ่อมก็จ๋อย... มันจึงต้องไปถึง ECU ซึ่งก็เป็นตัวสุดท้าย เมื่อซ่อมแล้วมันก็ดีจริงๆ เครื่องยนต์เป็นปกติ คราวนี้โล่งเลย เกาถูกที่ หายคัน ซ่อมตรงจุด
ซ่อม ECU 1JZ-GTE ประสบการณ์ของผมเอง
1JZ-GTE ECU Repair : My Experience.
..............................................................................................................
กล่อง ECU ของเครื่องยนต์ 1JZ-GTE เป็นสมอง เป็นตัวควบคุม เป็นตัวจัดการ เป็นตัวสั่งการ เป็นตัวตรวจเช็ค ปรับแต่ง เครื่องยนต์ให้ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ในทุกสภาวะการของการขับขี่ หากปราศจาก ECU เครื่องยนต์ JZ ของเราก็เป็นเพียงชิ้นส่วนอะไหล่ที่ทำงานไม่ได้ หรือหาก ECU ชำรุดเสียหาย เครื่องยนต์ก็จะทำงานไม่สมบูรณ์ หรือเกเร ทำเอาเจ้าของอาจต้องปวดหัว หงุดหงิด กับมันพอสมควรเลยทีเดียว
พอดีผมมีประสบการณ์ในการซ่อมรถของผมเอง ก็เลยคิดว่าจะแชร์ประสบการณ์สู่ท่านทั้งหลาย บางท่านอาจนำไปใช้เป็นแนวทางการซ่อมด้วยตัวเองได้
Homepage of Associate Professor BOONCHAT NETISAK
ADDRESS : 99/60 soi 9 PAHONYOTHIN ROAD AMPHER MUANG, LAMPANG THAILAND 52100
Copyright 2007 by BOONCHAT NETISAK,
All Rights Reserved.
เช้าวันหนึ่งราวๆ เกือบ 8 โมง ผมจะไปทำงาน นึกสนุกจะเอา บีเอ็ม-เจแซดไป สตาร์ทรถแล้วถอยออกไปวอร์มไว้หน้าบ้าน บิ๊กสปอนเซอร์ของผมเขาก็เข้าไปนั่งรอในรถเรียบร้อย แป๊บเดียว มันมีควันออกท่อไอเสีย ขาว ตะลบอบอวล เต็มไปหมด เสียงเครื่องยนต์ปุ๊บๆปั๊บๆ ไม่เต็มสูบ กลิ่นเบนซินเหม็นออกท่อไอเสีย นี่มันอะไรกัน คิดดังๆ ว่า มันจะระเบิดหรือเปล่า (วะ) เห็นท่าไม่ได้การรีบเปิดประตูให้บิ๊กสปอนเซอร์ของผมเขาออกมา แล้วผมก็ประคองเอารถเข้าเก็บในบ้าน ก็นับว่าโชคดีที่ยังไม่ขับออกไป ถ้าไปเป็นไกลบ้านก็ลำบากหนักเลยละ
วันต่อๆ มาก็ได้ศึกษาหาทางซ่อม ทดลองสตาร์ทเครื่องดู วอร์มได้พักเดียว ควันออก เสียงเครื่องยนต์ปุ๊บๆปั๊บๆ อีกแล้ว ทดลองหลายวิธี ไม่สำเร็จ ก็เลยปรึกษากับบิ๊กสปอนเซอร์ว่าจะต้องชัตดาวน์เพื่อซ่อมใหญ่ ใช้เวลาัสัก 6 เดือน พ.ย. 49 ถึง เม.ย.50 จะรื้อออกทั้งเครื่อง จะใส่กลับได้หรือเปล่าไม่รับประกัน ถ้าเอาคืนไม่ได้ก็จะทิ้งเลย บิ๊กสปอนเซอร์ของผมเขาเซเยส โอเค เปิดไฟเขียว ผมก็เลยได้โอกาสลุย
งานรื้อและประกอบเครื่องของผมเป็นตอนเย็น 5-6 โมง หรือ 2-4 ทุ่ม บางวันถึง 5 ทุ่ม การดำเนินงานเป็นไปตามแผน เข้าเป้า ไม่มีอะไรเสียหาย ประกอบคืนเรียบร้อยอย่างทุลักทุเล เหนื่อยแสนสาหัสแต่ก็มีความสุขใจที่ได้ทำนะครับ เสร็จตอนกุมภาพันธ์ 50 ติดเครื่องดูแล้วอาการยังไม่ทุเลา เหลือตัวเลือกสุดท้ายที่ต้องรื้อก็คือ ECU เอาวะ เป็นไงเป็นกัน ลุยต่อ
สรุป
ดังนั้นถ้ารถของท่านที่ใช้เครื่องยนต์ 1JZ-GTE มีอาการ 4 ข้อข้างต้น ให้เปลี่ยน หรือซ่อม ECU
1. ไขควงหัวแฉก สำหรับไขสกรู
2. หัวแร้งสำหรับบัดกรี พร้อมตะกั่วเส้น
3. คีมตัด ถ้าไม่มีใช้กรรไกรตัดเล็บแทน สำหรับตัดขาอุปกรณ์
4. แว่นขยาย สำหรับผู้สูงอายุเท่านั้น ถ้าหนุ่มอยู่ไม่ต้องใช้
5. สำลีปั่นหู พร้อมแอลกอฮอร์หรือทินเนอร์สำหรับเช็ดรอยบัดกรี
6. ไม้จิ้มฟัน สำหรับแยงรูบัดกรี
ขั้นที่ 1
ใช้ไขควงไขสกรูฝาปิดกล่อง ECU ออกทั้ง 2 ด้าน
ขั้นที่ 2
เอาฝาปิดออก
ไขสกรูยึดแผ่นปริ้นออก
ใ้ห้มือสัมผัสลายปริ้นแผงวงจรให้น้อยที่สุด
ขั้นที่ 3 อ้าแผ่นปริ้นขึ้น มันมีสายแพต่อถึงกัน เอาไขควงหรือไม้ค้ำไว้
ขั้นที่ 4 มองหาตัวคาพาซิเตอร์ ตัว C ที่ชำรุด ดูที่ขาของมันมีสารเคมีไหลเยิ้ม ตามรูปจะเห็น C104 ผิดปกติ
ตัว C ที่ต้องถอดเปลี่ยน มี 5 ตัว (ซื้อตัวใหม่มาแทน 6 ตัว) ดังนี้
ขั้นที่ 5
ใช้หัวแร้งจี้ที่ใต้ลายปริ้นตรงตำแหน่งขาตัว C ให้ตะกั่วละลาย ถอดตัว C ออกมา ทั้ง 5 ตัว
คือ C102, C104, C107, C109, C805
ตัวนี้พอถอดออกขาหลุด (C104)
ขยายชัดๆ C ที่ชำรุด
ดูที่ขาของมันมีสารเคมีไหลเยิ้ม
ตัว C ที่ซื้อมาใหม่ อ่านค่าบนตัวมัน ตัวนี้ 33uF 50V
นี่คือ C104 ค่าของตัวอื่นๆ ก็อ่านแบบเดียวกัน
เป็น C แบบอิเล็กโทรไลต์ ขายาวคือขาบวก (+)
ขาสั้น มีเครื่องหมายลบบนตัวมัน ขานี้คือขาลบ (-)
แทนด้วย ค่า 47uF 50V แบบ Electrolytic 1 ตัว
แทนด้วย ค่า 33uF 50V แบบ Electrolytic 1 ตัว
แทนด้วย ค่า 100uF 16V แบบ Electrolytic 1 ตัว
แทนด้วย ค่า 220uF 16V แบบ Electrolytic 1 ตัว
แทนด้วย ค่า 33uF 25V แบบ Electrolytic 2 ตัว (ต่ออนุกรมกัน ได้ 16.5uF 50V)
หรือ ค่า 10uF 50V 1 ตัว และ 4.7ีuF 50V 1 ตัว (ต่อขนานกัน ได้ 14.7uF 50V)
ขั้นที่ 6 - 1
ใส่ C104 ค่า 33uF 50V ใส่ขาบวก ขาลบ ให้ตรงรู บัดกรี และตัดขา
ใส่ C102 ค่า 47uF 50V ใส่ขาบวก ขาลบ ให้ตรงรู บัดกรี และตัดขา
ขั้นที่ 6 - 2
ใส่ C107 ค่า 100uF 16V ใส่ขาบวก ขาลบ ให้ตรงรู บัดกรี และตัดขา
ใส่ C109 ค่า 220uF 16V ใส่ขาบวก ขาลบ ให้ตรงรู บัดกรี และตัดขา
ขั้นที่ 7
C805 ค่า 15uF หาซื้อไม่ได้ เขาไม่มีขาย เราต้องทำเอง ใช้ค่า 33uF 25V 2 ตัว ต่ออนุกรม ขาบวกของตัวแรกบัดกรีกับขาลบของตัวที่ 2 ได้ค่าความจุ 16.5uF 50V ได้ค่าใกล้เคียง
ตัวนี้ฝีมือเราเอง ขาที่ออกมามี 2 ขา เอาไปเสียบบัดกรีที่ตำแหน่ง C805
(หรืออีกวิธีหนึ่งใช้ค่า 10uF 50V 1 ตัว และ 4.7ีuF 50V 1 ตัว ต่อขนานกัน ได้ 14.7uF 50V)
ตัวซี (C) นี้ คือคาพาซิเตอร์ (Capacitor) มีชื่อไทยว่า ตัวเก็บประจุ (ไฟฟ้า) หาซื้อได้ที่ร้านขายอะไหล่อิเล็กทรอนิกส์นะครับ
จดรายการไป ทางซ้ายเป็นค่าที่เดิมที่อยู่ในกล่อง ถ้าท่านซื้อมาได้ก็ใช้ได้เลยตามนั้น กรณีหาของไม่ได้ ต้องใช้ของแทนตามรายการขวามือ
ราคาตัวละ 1-3 บาท ทั้งหมดนี้ 6 ตัว ผมซื้อที่ลำปาง 14 บาทถ้วนๆ ถ้าใครซื้อได้เกิน 20 บาท ก็นับว่าเก่งมาก ขอนับถือ...นับถือ ...
ขั้นที่ 8
ตรวจความเรียบร้อยของขาอุปกรณ์ อาจตรวจอุปกรณ์อื่นด้วยตาของท่าน ถ้าพบตัวไหนไหม้ โดยเฉพาะ R ก็จัดการเปลี่ยนเพิ่มเติม ที่ไม่ควรยุ่งก็อย่าไปยุ่งกับมัน เดี๋ยวยุ่งกันใหญ่
เมื่อเรียบร้อย ปิดฝากล่อง ใส่สกรูขันทำย้อนตอนถอด เสร็จแล้วก็เอาไปใส่ปลั๊กลองกับเครื่องยนต์
ไม่จำเป็นต้องรอให้มันเสียแล้วจึงซ่อม ถ้ากล่องรุ่นเดียวกับรถของผม ควรถอดมาซ่อมได้แล้วครับ C มันจะหมดสภาพ ป้องกันก่อนที่มันจะเสีย
ถ้าทำเองไม่ได้ก็บัญชาการ ให้พวกเด็กช่างอิเล็กฯ หรือคนที่บัดกรีมือนิ่งๆ ทำให้ จ่ายค่าขนม (เบียร์) เขาไป แต่ต้องฝีมือหน่อยนะครับ เอาแบบเนียนๆ
เป็นอันว่าเราซ่อม ECU เสร็จด้วยราคาประมาณ 14 บาท เท่านั้น ..ถูกๆ แปลว่าไม่แพง
ใครจะเอาวิชานี้ไปหากินก็อย่าคิดค่าซ่อมแพงนัก นึกว่าสงสารเพื่อน เจแซด..ตาดำๆ ด้วยกัน
(ด้านนี้เป็นของเดิม ทุกตัว 105 องศา C)
(ทุกตัวไม่ต่ำกว่า 85 องศา C)
หมายเหตุ การซ่อมของผมใช้อะไหล่ของแทนตามรายการข้างต้น ไม่มีปัญหาอะไร เพราะคิดเผื่อไว้ให้ทนกว่า จะด้อยกว่าของเดิมเล็กน้อยตรงการทนอุณหภูมิแค่ 85 องศา แต่ก็ไม่ส่งผลต่อการทำงานเพราะตัวกล่อง ECU ติดตั้งไว้ในรถ อุณหภูมิไม่สูง ดังนั้นท่านที่คิดจะซ่อมตามที่แนะนำจึงไม่ต้องกังวล