l
โดย รองศาสตราจารย์บุญชัด เนติศักดิ์ |
l
MAIN MENU
l
|
|
ที่มา ... และสาเหตุ
- อาการ : เสียงดังที่หน้าเครื่องยนต์
กาลครั้งหนึ่งผมขับเจ้า E34 ไปทางไกล ปกติก็เปิดแอร์ ปิดกระจกวิ่ง เมื่อวิ่งด้วยความเร็ว เสียงภายนอกก็ไม่ค่อยได้ยินว่ามีเสียงอะไรบ้าง ทางไฮเวย์บ้านเราพอวิ่งไปดีๆ ก็มักจะมีไฟแดง ให้เราต้องหยุดพักผ่อนเป็นระยะๆ ผมไปเจอไฟแดงแห่งหนึ่ง มีรถเก๋งคันหนึ่งเขาจอดติดไฟแดงอยู่ก่อน ผมก็ไปหยุดที่เลนข้างๆ พอรถจอดสนิท ผมก็บ่น "ไอ้รถคันนั้น ทำไมเสียงเครื่องมันดังจัง .... วะ" เมื่อได้ไฟเขียวต่างคนก็ต่างขับรถห่างกันออกไป สักพักนึ่ง บิ๊กสปอนด์เซอร์ที่นั่งเบาะซ้าย เขาพูดขึ้นว่า "รถคันนั้นมันไปแล้ว แต่เสียงยังดังอยู่ .... สงสัยเป็นเสียงเครื่องรถเรา .... "
ผมชะลอความเร็ว เปิดกระจกเพื่อฟังเสียง "..... เสียงรถเรา จริงด้วย เสียงรถเราเองแหละที่ดัง ..... " แต่ก็ไม่ตกใจมาก เพราะวิ่งมาหลายร้อยกิโลเมตรแล้ว (ยังวิ่งได้ ไม่พัง) เหลืออีกราวยี่สิบกว่ากิโลเมตรก็จะถึงบ้าน เสียงที่ดังนี้ยังไม่น่ามีปัญหาอะไร
เมื่อกลับถึงบ้าน ตอนที่ลงรถไปเปิดประตูบ้าน จะได้ยินเสียงเครื่องยนต์ดังชัดเจนมากๆ จากทางหน้าเครื่องยนต์ ... .. กะ .. ร๊าก ..ๆ .. แก .. แร๊ก ..ๆ .. จี๊ก ...จี๊ .. อี๊ก ...ๆ ... ได้ยินเสียงดังก็เสียวย้อนหลังเหมือนกัน โชคดีกลับถึงบ้านได้ปลอดภัย
[ เสียงดังหน้าเครื่องยนต์ แถวๆ ลูกศร ]
- เสียงดังตอนที่เครื่องยนต์ร้อน
จอดรถไว้ 1 คืน รุ่งเช้าติดเครื่องยนต์ อุ่นเครื่อง "อ้าว ... ไอ้เสียงที่ดังเมื่อวาน ... ไหง ... เช้านี้เสียงเครื่องยนต์เป็นปกติดี ... " ผมไม่รู้จะทำไงดี จำเป็นต้องใช้รถไปตามปกติ พอขากลับเปิดประตูเข้าบ้าน ได้ยินเสียงเครื่องดังอีกแล้ว
ผมจึงทดลองดู ปิดแอร์เสียงจะเบาลง เปิดแอร์เสียงจะดังมากขึ้น
เข้าเกียร์ (ออโต) D หรือ R เสียงจะดังมากขึ้น เข้าเกียร์ว่าง N เสียงเบาลง จะเป็นเฉพาะตอนที่เครื่องร้อน
เสียงดังมาก .. กะ .. ร๊าก ..ๆ .. แก .. แร๊ก ..ๆ .. จี๊ก ...จี๊ .. อี๊ก ...ๆ ...
ซึ่งเสียงมันบ่งบอกว่า E34 สุขภาพไม่ดี ขี้โรค ... ควรเยียวยา
[ เสียงดังหน้าเครื่องยนต์ แถวๆ ลูกศร มองจากด้านซ้ายของเครื่อง ]
- ศึกษาด้านหน้า ขวา ของเครื่องยนต์ ..... สายพานคอมเพรสเซอร์แอร์
ด้านนี้ประกอบด้วยสายพานเส้นสั้น 5PK905 ฉุดคอมเพรสเซอร์แอร์ มีลูกรอก 1 ตัว พร้อมกับมีโช้คไฮดรอลิคดันสายพานเพื่อช่วยให้สายพานตึงอยู่เสมอโดยไม่ต้องปรับ ถ้าเสียงดังจากด้านนี้ ตัวที่จะทำให้เกิดเสียงดังได้ คือ 1) คอมเพรสเซอร์แอร์ 2) ลูกรอก 3) โช้คดันสายพาน และ 4) สายพาน
- ศึกษาด้านหน้า ซ้าย ของเครื่องยนต์ สายพาน ได .... ด้านนี้ประกอบด้วยสายพานเส้นยาว 6PK1555 ฉุดปั๊มน้ำหล่อเย็น ฉุดไดชาร์จ (อัลเตอร์เนเตอร์) และฉุดปั๊มพวงมาลัยเพาเวอร์ มีลูกรอก 2 ตัว พร้อมกับมีโช้คแบบสปริงดันสายพาน 1 ตัว เพื่อช่วยให้สายพานตึงอยู่เสมอโดยไม่ต้องปรับ ถ้าเสียงดังจากด้านนี้ ตัวที่จะทำให้เกิดเสียงดังได้ คือ 1) ปั๊มน้ำ 2) ไดชาร์จ 3) ปั๊มพวงมาลัยเพาเวอร์ 4) โช้คดันสายพาน 5) ลูกรอก 2 ตัว และ 6) สายพาน
- วิเคราะห์ เสียงดังหน้าเครื่องยนต์ M50
ผมจัดการเปิดฝากระโปรงรถออกมา สำรวจมองไปมองมา มันน่าจะเป็นที่สายพานและตัวที่เกี่ยวข้องกับสายพานและการหมุน
เช่น ลูกรอกอาจฝืด ลูกปืนอะไรสักอย่างอาจแตก นี่คือข้อสงสัยของผม
จะว่า อาการนี้ซีเรียสไหม ... ก็ไม่เชิง แต่กังวลหน่อยๆ ว่าถ้าลูกปืนลูกรอกมันฝืด ตอนวิ่งๆ ไป มันจะเป็นอะไรไหม ..
ถ้าจะฟันธง .. ว่า ข้อสงสัยนี้จะถูกหรือไม่ Im not sure เพราะไม่เคยซ่อมอาการแบบนี้มาก่อน
การค้นหา ต้องลองค้นหาสาเหตุให้แน่ชัดก่อน ส่วนจะซ่อมได้หรือไม่ ซ่อมอย่างไร เดี๋ยวค่อยว่ากันทีหลัง หาตัวเสียให้เจอแล้วค่อยพิจารณา
ว่าจะทำอย่างไร
ที่หน้าเครื่องยนต์ M50 มีสายพาน 2 เส้น มีพูลเล่ย์ 5 ตัว มีลูกรอก 3 ตัว แล้วมันจะเป็นที่ตัวไหน ... (วะ)
พิจารณาพูลเล่ย์ทั้ง 5 ตัว แต่ละตัวมีร่องตัว V เล็กๆ 5-6 ร่อง ให้สายพานลงไปอยู่ในร่องเล็กๆ นี้ ซึ่งจะมีแรงยึดที่ฝืดสูงมาก ไม่น่าจะเป็นไปได้ว่ามันจะลื่น พิจารณาว่ามันคงไม่ใช่
ต่อไปก็พิจารณาลูกรอกซึ่งเป็นตัวหมุน ให้สายพานวิ่งได้คล่อง น่าสนใจและอาจเป็นไปได้ ว่าแล้วก็ถอดสายพานออกทั้ง 2 เส้น เอามือ
ตรวจลูกรอก ลองหมุนและขยับ คลอนดู มันก็แน่นดี ไม่หลวมคลอน การหมุนก็คล่อง ไม่มีเสียงดัง
อ้าว .. ! อะไร ..ก็ดีหมด แล้วจะหายังไง .. (วะ .. เนี่ย.)
ลองถอดลูกรอกออกมาดู ใช้ประแจบ๊อก #16 mm. ถอดลูกรอกตัวบนสุดออกมาก่อน ตรวจโดยให้มือหนึ่งจับแกนกลาง อีกมือลองขยับ
และหมุนดู ไม่มีอะไรผิดปกติ วางไว้ก่อน
ถอดลูกรอกตัวกลาง ตรวจโดยลองขยับและหมุนดู ไม่มีอะไรผิดปกติ วางไว้ก่อน
ถอดลูกรอกตัวล่างล่างสุด ใกล้คอมแอร์ ใช้ประแจ L 5 mm. พอใส่ประแจตั้งท่าหมุนประแจ ออกแรงยังไม่มากมีเสียงดัง .. พล๊อก.. เอาแล้ว
ไหมล่ะ ยังหมุนไม่ออกเลย มีอะไรหักแล้ว (พับเผื่อย ... ซวยแล้วตู)
ตรวจดูพบว่า ที่เสียงดังนั้นเกิดที่ตัวโช้คที่ดันลูกรอกสร้างความตึงสายพานอัตโนมัติท่าจะเสร็จ .... มะก๊อง .. ด้อง เสียแล้วละ พยามยามถอดออก
มาจนได้ ชิ้นส่วนหลุดออกมาเป็นชิ้นๆ ชิ้นบน ชิ้นล่าง สปริง และน้ำมันไหลออก
ตอนนี้คงไม่ต้องสรุปว่าอะไรเสีย เห็นกันจะจะ ว่าหลุดเป็นชิ้นๆ เสียไม่เสียก็ต้องซื้อตัวใหม่มาเปลี่ยน เพราะจะเอาตัวเก่ามาใช้อีกไม่ได้แน่ๆ นี่คือ การค้นหาเสียงดังทางด้านขวา หรือด้านคอมแอร์
(เรื่องนี้ได้เขียนไว้อีกเพจหนึ่งต่างหาก -- >> click ... เข้าไปดูวิธีการวิเคราะห์และการ แก้ไข คอมเพรสเซอร์แอร์เสียงดัง )
การวิเคราะห์ เสียงดังหน้าเครื่องยนต์ M50 ด้านซ้าย การค้นหาเสียงดังทางด้านนี้ ผมต้องถอดสายพาน ถอดไดชาร์จ ถอดปั๊มเพาเวอร์พวงมาลัย ลูกรอก ถอดออกทุกตัว ตรวจแล้วก็ไม่พบอะไรผิดปกติ ใส่กลับเข้าไป ทดลองติดเครื่องวิ่งดู ยังเป็นเหมือนเดิม ดังมากๆ ( แบบเสียยี่ห้อ BMW ) แต่ต้องทนใช้ไป เพราะหาตัวเสียไม่พบ
พอมีเวลาว่าง ผมต้องมาค้นหาตัวที่ทำให้เกิดเสียงดังอีก เนื่องจากหาตัวเสียไม่เจอ ตัดสินใจ ซื้อลูกรอกใหม่ 2 ตัวมาเปลี่ยน แต่ผลลัพธ์ ..... เสียงดังเหมือนเดิม
หลายวันต่อมา ผมเริ่มงานค้นหาเสียงดังอีกครั้ง คราวนี้ถอดออกหมดทุกตัวที่เกี่ยวข้อง ถอดไดชาร์จ ตรวจดูลูกปืน ถอดปั๊มเพาเวอร์ ดูการหมุน เกือบๆ จะเปลี่ยนปั๊มเพาเวอร์ แต่ติดที่ว่า .... แพง วิเคราะห์แล้ว ไม่น่าใช่ จึงใส่กลับคืน ไม่รู้จะทำอะไรอีกแล้ว จึงถอดโช้คสปริงตัวดันสายพานออกมาดู ก็ไม่พบอะไร ก่อนใส่คืนก็ทำความสะอาด และลองใช้น้ำมันโซแนกซ์ฉีดเข้าไปข้างใน แล้วจึงประกอบชิ้นส่วนเข้าที่เดิม
เสียงดังหน้าเครื่องยนต์ ไม่ดังอีก ผมประกอบอุปกรณ์ทุกชิ้นกลับคืน และเริ่มทดลองติดเครื่องยนต์ ปรากฏว่าเครื่องยนต์เงียบ เสียงที่เคยดังหน้าเครื่องยนต์หายไป ผมไม่ค่อยเชื่อหูตัวเองนัก จึงนำรถออกไปวิ่งให้เครื่องร้อน ราว 10 km. กลับมาบ้าน เครื่องยนต์ยังเงียบอยู่ เป็นอันว่าตอนนี้น่าจะเกาถูกที่คัน นั่นก็คือพบ ต้นตอที่เกิดเสียงดัง ได้แก่ ...... โช้คสปริงดันสายพานนั่นเอง เมื่อได้รับการฉีดน้ำมันโซแนกซ์เข้าไป .... มันเงียบ
ดีใจมาก ครับ ..... หายเหนื่อย แก้ได้ถูกจุด ตรงประเด็น หลังจากที่ค้นหามายาวนาน
อ้าว .... เสียงดัง ..... กลับมาดังอีกแล้ว หลังจากเสียงเครื่องยนต์เงียบดีแล้ว ผมใช้รถตามปกติและสังเกตอาการว่า หายขาดหรือยัง พอวันที่ 4 อาการกำเริบอีก เครื่องยนต์เริ่มมีเสียงดัง ..... เสียงดังกลับมาเหมือนเดิม
ผมเริ่มการวิเคราะห์ใหม่ ว่า น้ำมันโซแนกซ์ที่ฉีด มันคงแห้ง ไม่พอหล่อลื่น อายุมันได้แค่ 3 - 4 วัน พอเครื่องร้อนมากๆ มันทนไม่ได้
ผมจึงถอดโช้คสปริงดันสายพานออกมาใหม่ คราวนี้เอาให้สะใจ ... เอาน้ำมันเครื่องหยอดเข้าไปข้างใน เอาจาระบีทาเพิ่มเข้าไป จะลองดูอีกที ว่าจะหายดังและอยู่ทนหรือไม่ ถ้าไม่หายก็จะซื้อตัวใหม่มาเปลี่ยน
ผลการใช้งาน ดีมากครับ พอใจ นี่เป็นวิธีที่ถูกต้อง ประหยัด ไม่ต้องซื้ออะไหล่ใหม่ ผมใช้งานมาจนเดี๋ยวนี้ เครื่องยนต์ยังเงียบ พอใจมากๆ ครับ ลองติดตามดูที่ผมทำ ไม่ยาก .....
No problem, We can do, Please continue ............ this DIY.
[upLoad on 28/07/2009]
|
|
คำเตือน ........
งานนี้เพื่อความปลอดภัย ต้องทำตอนเครื่องเย็น ถ้าเครื่องร้อนก็ใช้พัดลมเป่า แล้วรอให้เครื่องเย็น อุ่นพอที่เราจะทำงานได้
|
|
ขั้นตอนการค้นหา ตรวจสอบ เสียงดังหน้าเครื่องยนต์ M50 (เฉพาะด้านซ้าย หรือด้านไดชาร์จ)
|
 |
เสียงดังนี้ บางคนว่าเสียง VANOS บ้างก็ว่าเสียงโซ่ราวลิ้น บ้างก็ว่าวาล์วห่าง
บ้างก็ว่าเสียงไดชาร์จ หรือเสียงของลูกรอก ว่ากันไป แล้วแต่ประสบการณ์ที่เคยซ่อม
ผมไม่เคยเจออาการนี้มาก่อน จึงต้องค้นหาที่มาของเสียงเพื่อจะได้ซ่อมให้ถูกจุด
|
 |
ตำแหน่งที่มาของเสียง จะออกมาจากเขตสี่เหลี่ยม
เราจะมองเห็นลูกรอก สายพาน ไดชาร์จ
|
 |
ผมต้องหาเครื่องช่วยฟัง เพื่อให้ฟังได้ใกล้ชิดมากๆ
ใช้ท่อประปายาวประมาณ 80 CM หรืออาจใช้ท่อโลหะก็ได้
|
 |
หาที่เงียบๆ ติดเครื่องยนต์ เดินเบาไว้
ปลายท่อด้านหนึ่งแหย่ไปตรงแหล่งเสียงที่ต้องการฟัง
|
 |
ปลายอีกด้านหนึ่งของท่อ เอามาแนบใกล้หูของเรา
ควรใช้มือกำปลายท่อ เป็นตัวเชื่อมเสียงระหว่างท่อกับหูของเรา
|
 |
เนื่องจากเสียงจะดังมาก เราสามารถควบคุมความดังของเสียงได้โดยมือที่กำนี้
ปลายท่อที่แหย่ไปรับเสียง อาจสัมผัสกับชิ้นส่วนเครื่องยนต์ที่ไม่หมุน เสียงจะถ่ายทอดมายังหูของเราชัดเจน
|
 |
ขยายดูชัดๆ ตรงแหล่งต้นตอ ระวัง เครื่องยนต์กำลังหมุน
อาจให้มีคนช่วยเร่งเครื่องในบางจังหวะ เพื่อฟังความแตกต่างของเสียง
เสียงที่ได้ยินจะชัดเจนมาก โปรดลองฟังดูเอง .... ครับ ไม่มีค่าใช้จ่าย
|
|
ตรวจสอบชิ้นส่วนทุกชิ้น ให้หายสงสัย
|
 |
ลูกรอกตัวบนสุด ยึดด้วยโบลต์ตัวยาว ถอดออกมา
|
 |
ลองหมุน และขยับ โยก ลูกรอก ว่าหลวม คลอน มีเสียงดังหรือไม่
|
 |
ลูกรอกด้านนี้มี 2 ตัว ผมถอดออกมาทั้ง 2 ตัว
ลองซื้อตัวใหม่มาเปลี่ยนแล้ว ไม่หายดัง เก็บตัวเก่าไว้เป็นอะไหล่
ลูกรอกไม่ใช่แหล่งต้นตอของเสียงดัง
|
 |
ตรวจไดชาร์จ
ใช้มือลองหมุน และจับโยก ฟังเสียงการหมุน และการหลวม
ไม่พบอะไรผิดปกติ
|
 |
ตรวจดูปั๊มเพาเวอร์พวงมาลัย
จับหมุน และโยกดู ตัวนี้เกือบเสียท่า เวลาเราขยับหมุนกลับทางมันจะดัง แก๊ก ... แก๊ก
ทีแรกนึกว่าเสีย แต่ตามหลักการทำงานจริงมันจะหมุนไปทางเดียว ไม่ทำให้เกิดเสียงดัง งานนี้รอดตัวไป ไม่ได้เปลี่ยน
|
|
การถอด และซ่อมโช้คสปริงดันสายพานหน้าเครื่อง M50
|
 |
ชิ้นส่วนตัวนี้ สำคัญ คือโช้คสปริงดันลูกรอก เพื่อสร้างความตึงให้แก่สายพาน
เป็นตัวดันสายพานให้ตึงอย่างอัตโนมัติ ตลอดเวลา ไม่ต้องปรับตั้งความตึง
|
 |
เมื่อใช้ไปนานวัน มันเก่า จะเกิดเสียงดังเมื่อเครื่องยนต์ทำงานและเครื่องร้อน
ถอดน๊อตยึดออก 2 ตัว เพื่อจะเอามันออกมาซ่อม
|
 |
ถอดออกมาแล้ว เป็นครั้งแรกที่ชิ้นส่วนตัวนี้ถูกถอดออกมา
ตัวมันสกปรกและมีฝุ่น เขม่าดำติด
|
 |
ล้าง อาบน้ำ ขัดผิวให้สวย สะอาด
ใช้ลมเป่าข้างใน และผึ่งให้แห้ง
|
 |
โครงสร้างประกอบด้วย 2 ชิ้น มีสปริงข้างใน
ใช้น้ำมันเครื่อง หาจากแกลลอนเก่าที่เราเคยเติม มันจะมีน้ำมันอยู่ที่ก้นแกลลอน นำมาใช้ได้
เท หรือหยอด น้ำมันเข้าไปตามลูกศร แล้วกลอก ให้น้ำมันชุ่มทั่วข้างใน (อาบ)
หมายเหตุ
ครั้งแรกผมใช้น้ำมันโซแนกซ์ฉีดข้างใน เสียงหายดัง แต่อยู่ได้แค่ 3 วัน
|
 |
น้ำมันส่วนเกิน เทออกใส่แกลลอน
|
 |
เช็ด ทำความสะอาดผิวด้านนอก ให้หมดคราบน้ำมัน
|
 |
ลองเทน้ำมันนออก ว่าหมดหรือยัง อย่าให้มีน้ำมันมากเกินไป เพราะจะทำให้เครื่องมีฝุ่นจับมาก
|
 |
ตรวจดูตามร่องที่ชิ้นส่วนประกบกัน
ใช้จาระบีทาในร่องให้ทั่วตลอดทั้งตัว
|
 |
เช็ดทำความสะอาดภายนอกอีกครั้ง
ติดตั้งโช้คสปริงดันสายพานกลับเข้าที่เดิม
|
 |
ใส่ลูกรอก
ประกอบชิ้นส่วนอื่นๆ กลับเข้าให้เหมือนเดิม
|
 |
ใส่สายพาน
ทดลองติดเครื่องยนต์ ฟังเสียง
เสียงดังผิดปกติที่เคยดังก่อนหน้านี้ ไม่มีให้ได้ยินอีกเลย
เมื่อซ่อมเสร็จ เครื่องยนต์ของเราจะเสียงเงียบมาก ๆ ....... พอใจ
|
สรุปผลการซ่อม ........
1. การเปลี่ยนลูกรอกครั้งแรก 2 ตัวนั้น ไม่ตรงจุด ไม่หายดัง
2. การซ่อมโช้คสปริงดันสายพานโดยใช้น้ำมันโซแนกซ์ฉีด เสียงหายดัง อยู่ได้ 3 วันกลับมาดังอีก
3. การซ่อมโช้คสปริงดันสายพานโดยใช้น้ำมันเครื่องหล่อลื่นข้างใน และใช้จาระบีทาตรงร่องกลางที่ซ้อนกัน เสียงหายดัง อยู่ได้นานมาก ..... พอใจตรงนี้มาก
..... แต่กว่าจะแก้ได้ตรงจุด ใช้เวลานานพอสมควรและใช้รถไปประมาณ 50000 ก.ม.
หมายเหตุ ..... ถ้าแก้ตรงนี้ยังไม่หายดัง บางทีอาจจะอยู่ที่สายพานเส้นสั้น ทางด้านขวา (ด้านคอมแอร์) ก็ได้ ซึ่งเมื่อชิ้นส่วนชำรุดจะมีเสียงดังมาก อาจสับสนว่าเสียงดังข้างใดแน่ ซึ่งผมได้ทำการแก้ไขแล้วเช่นกัน
(click ... เข้าไปดูวิธีแก้อาการคอมเพรสเซอร์แอร์เสียงดัง : การวิเคราะห์และการ แก้ไข เครื่องยนต์ M50)
|
Midnight Sun at NordKapp, NORWAY
เมื่อ 13 ก.ค. 2552 ผมและบิ๊กสปอนด์เซอร์ได้มีโอกาสไปแหลมเหนือ ประเทศนอร์เวย์
ตามรอยเสด็จประพาสของ ร.5 ท่านเสด็จตั้งแต่ 102 ปีที่แล้ว (12 ก.ค. 2450)
ที่แหลมเหนือนี้ ผมรู้สึกว่าเป็นของประเทศไทย .... มากกว่าครึ่ง
เพราะมีพระปรมาภิไทยและนิทรรศการของ ร.5 แสดงไว้ให้คนทั่วโลกได้ชื่นชม
ผมมีโอกาสถวายบังคม ร.5 ณ ดินแดนพระอาทิตย์เที่ยงคืน
สุดถนนบนแหลมเหนือ ของประเทศนอร์เวย์
(เส้นรุ้งที่ 71 องศา 10 ลิบดา 21 พิลิบดา เหนือ)
ซาบซึ้งใจและภูมิใจ มาก ๆ ครับ

[ Big Sponsor, 13/7/2009 , 23:56:28 , Nordkapp, Norway ]

[ Big Sponsor , 13/7/2009 , 23:41:36 , Nordkapp, Norway ]
Homepage of Associate Professor BOONCHAT NETISAK
ADDRESS : 99/60 soi 9 PAHONYOTHIN ROAD AMPHER MUANG, LAMPANG THAILAND 52100
Copyright © by BOONCHAT
NETISAK, All Rights Reserved.
[
BMW E34 DIY MAIN MENU
]
|
|