BMW 525i (E34) DIY
Do it yourself by GRANDFATHER (Assoc.Prof. Boonchat Netisak)

การเปลี่ยนปั๊มน้ำมันเบนซิน (ปั๊มติ๊ก) BMW E34
Fuel Pump Replacement.
l l MAIN MENU โดย คุณปู่ บุญชัด เนติศักดิ์ l

      การเปลี่ยนปั๊มน้ำมันเบนซิน BMW E34

    ปั๊มน้ำมันเบนซิน หรือปั๊มน้ำมันเชื้อเพลิง ผู้ขายอะไหล่เรียกว่า ปั๊มติ๊ก ติดตั้งอยู่ภายในถังน้ำมันท้ายรถ ของ BMW E34 ตัวปั๊มอยู่ในลักษณะตั้ง ด้านล่างของปั๊มมีกรองน้ำมัน ด้านบนปั๊มต่อกับท่อสายยางน้ำมัน 2 ท่อ คือท่อส่งน้ำมันออก และท่อรับน้ำมันกลับถัง และมีสายไฟ 2 เส้น จ่ายไฟเข้าไปเลี้ยงตัวปั๊มที่ด้านบน

    ตัวปั๊มน้ำมันเบนซิน หรือปั๊มติ๊ก ยึดอยู่กับโครงพลาสติก มียางกันสะเทือนแขวนโดยรอบ ท่อสายยางน้ำมันและสายไฟยึดอยู่กับแผ่นโลหะปิดบนถังน้ำมัน รวมเป็นชุดเดียวกับตัวกระบอกลูกลอยวัดปริมาณน้ำมัน การถอดใส่ปั๊มน้ำมันเบนซิน จึงต้องถอดใส่ทั้งชุดของตัวกระบอกลูกลอยวัดปริมาณน้ำมัน (กระบอกสีขาว)


    ภาพชุดของปั๊มน้ำมันเบนซินและตัวกระบอกลูกลอยวัดปริมาณน้ำมัน




    ภาพปั๊มน้ำมันเบนซิน สายยางท่อน้ำมัน และซีลยาง ที่ถอดออกเปลี่ยน

    ก่อนการเปลี่ยนปั๊มน้ำมันเบนซิน ไม่ควรมีน้ำมันในถังมาก มีอยู่ในถังประมาณ 20 ลิตร กำลังพอดี สะดวกตอนที่เอามือล้วง มือจะได้ไม่สัมผัสกับน้ำมัน (น้ำมันจะไม่เปียกมือ) กรณีมีน้ำมันมากก็สามารถเปลี่ยนได้ แต่ต้องใช้มือล้วงผ่านน้ำมัน คลำหาตัวกดล็อกเอาปั๊มออก มือต้องจุ่มในน้ำมันหลายนาที

    ตัวอย่างการเปลี่ยนปั๊มน้ำมันเบนซิน ในเพจนี้เสนอไว้เป็นแนวทางให้ผู้ที่สนใจได้ทราบข้อมูล วิธีการขั้นตอน ที่จะเป็นประโยชน์ ไม่เฉพาะแต่การเปลี่ยนตัวปั๊มเท่านั้น ยังสามารถทำอย่างอื่นได้อีก เช่น การเปลี่ยนท่อยางน้ำมัน การเปลี่ยนสายไฟ การซ่อมตัวกระบอกลูกลอยวัดปริมาณน้ำมัน การเปลี่ยนปะเก็นยางกันน้ำมันรั่ว หรืออาจเห็นแนวทางเพื่อการดัดแปลงซ่อมแซมให้เหมาะกับรถคันของท่านก็ย่อมได้

    เบื้องหลังการถ่ายทำ การถ่ายภาพปั๊มน้ำมันเบนซินในถัง ขอบอกว่า มันตื่นเต้น และ กลัว ..... มากๆ แต่ก็ลองเสี่ยงถ่าย คือ ธรรมชาติของน้ำมันเบนซินจะมีไอลอยขึ้น ไอน้ำมันเมื่อพบกับประกายไฟ ... อะไรจะเกิดขึ้น ถ้าเป็นกล้องแบบซูมจากระยะไกลก็ไม่น่าเป็นห่วง แต่ผมใช้กล้องเล็กจ่อที่ปากรู .. ช่องบนถังที่เราเอาปั๊มออกมา ตอนกดชัตเตอร์และแฟลชเปิด กลัวว่า มันจะ บึ้ม ... เคยเห็นน้ำมันเบนซินมันลุกติดไฟได้แค่โทร.มือถือใกล้ๆ ผมก็กล้าๆ กลัวๆ กลั้นใจกดถ่ายไป 3-4 ภาพ ซึ่งก็โชคดี ปลอดภัย ชัดบ้าง ไม่ชัดบ้าง แต่ก็เลือกได้ภาพที่ชัดพอสมควรเอามาประกอบการเขียน



    ลองติดตามอ่าน DIY เพจนี้ดู ได้ลงรูปและเนื้อหาไว้อย่างละเอียดแล้ว



   No problem, We can do, Please continue ............ this DIY.
   [upLoad on 01/05/2012]


การเตรียมอะไหล่เพื่อเปลี่ยนปั๊มน้ำมันเบนซิน BMW E34
  • ปั๊มน้ำมันเบนซิน (ปั๊มติ๊ก)
  • ท่อสายยางน้ำมันเบนซิน
  • ปะเก็นหรือซีลยาง
  • ตัวปั๊มน้ำมันเบนซิน ตอนซื้อบอกคนขายว่า ต้องการปั๊มติ๊ก ที่อยู่ในถังน้ำมัน ของรถ BMW E34
  • Made in ....เยอร ..ไชน่า
  • โลกใบนี้ เป็นของประเทศจีน เราต้องยอมรับ
  • แกะดูตัวปั๊มจะใส่ถุงพลาสติดซีลปิดถุงอย่างดี
  • ที่รูท่อน้ำมันมีจุกพลาสติกครอบอุดไว้ ตรงกลางตัวปั๊มมียางที่จะติดตั้งสวมอยู่ และที่ด้านล่างมีกรอง
  • สายยางท่อน้ำมันเบนซิน ขนาดรูใน 8 ม.ม.(5/16 นิ้ว) ยาว 42 ซ.ม. 2 เส้น ซื้อมาเป็นเส้นยาว แล้วตัดให้พอดี
  • ข้อพิจารณาเลือกสายยาง โปรดอ่านท้ายเพจนี้
  • ปะเก็นหรือซีลยาง ที่ใช้รองแผ่นโลหะปิดบนถัง อาจใช้ของเดิม ถ้าสภาพดี ต้องพิจารณาดูหากมีน้ำมันซึมเยอะ หรือตัวยางหมดสภาพควรเปลี่ยน ของใหม่ต้องซื้อของ BMW จากตัวแทนจำหน่าย (ศูนย์)

  • การเปลี่ยนปั๊มน้ำมันเบนซิน BMW E34
  • เปิดพรมห้องเก็บของท้ายรถ นำพรมออกไปไว้นอกรถ
  • ทำความสะอาด เช็ดฝุ่นบริเวณแผ่นปิดที่จะเข้าถึงถังน้ำมัน
  • ใช้ไขควงหัวแฉก ไขสกรูที่แผ่นปิด จำนวน 5 ตัวออก
  • เปิดแผ่นปิดออก
  • แผ่นเหล็กกลมที่มองเห็นคือฝาแผ่นเหล็กยึดลูกลอยในถังน้ำมัน
  • มีสายยางน้ำมันต่ออยู่ 2 เส้น และมีปลั๊กสายไฟ
  • เราต้องทำความสะอาด ใช้แแปรงสีฟันขัดฝุ่น ดินบนฝาถัง และใช้เครื่องดูดฝุ่น ดูดไปขัดไป จนบริเวณนี้สะอาด
  • ใช้ผ้าชุบน้ำหมาด ๆ เช็ดทำความสะอาดอีกครั้ง
  • ถอดปลั๊ก ใช้ไขควงปากแบนสอดเข้าไปงัดที่โลหะข้างปลั๊ก ดันไขควงให้โลหะง้างออก
  • ปลั๊กไฟจะหลุดออกมา เป็นการถอดปลั๊กออก
  • ปลั๊กไฟ มี 5 รู สังเกตว่ามีซีลยางรอบปลั๊กด้วย ระวังเก็บให้ดี ตอนใส่กลับต้องใส่ให้ครบ กันน้ำได้
  • ทำความสะอาดรอบ ๆ อีกครั้ง
  • ตอนนี้เราถอดปลั๊กบั๊มเบนซินออกแล้ว ให้ไปสตาร์ทรถ ติดเครื่องยนต์ใช้น้ำมันเบนซิน เดินเบาจนเครื่องดับไปเอง เป็นการลดแรงดันน้ำมันในท่อ
  • เริ่มถอดสายยางน้ำมัน โดยถอดคลิป รัดสายก่อน แล้วดึงสายน้ำมันออก จะมีน้ำมันค้างท่อออกมาเล็กน้อย ใช้ผ้าซับไม่ให้ไหลนอง
  • ปลายท่อยางใช้พลาสติกรัดไว้กันส่งสกปรกที่อาจเข้าไปในรูท่อ แล้วยัดปลายท่อไว้ข้าง ๆ
  • ถอดน๊อตยึดแผ่นเหล็กฝายึดลูกลอย ใช้ประแจ 10 ม.ม. คลายน๊อต 8 ตัวออก
  • ค่อย ๆ ขยับยกแผ่นเหล็กฝายึดลูกลอยขึ้นมา
  • เนื่องจากท่อยางจะแข็งตัว ใช้มือช่วยดันให้สายยางไม่ครูดกับขอบถัง
  • ค่อยๆ ดึงลูกลอยขึ้น พร้อมกับดันสายยางให้ออกมายาวที่สุด
  • เอียงกระบออกลูกลอยเพื่อให้พ้นออกจากถัง ต้องระมัดระวัง ห้ามใจร้อน เพราะท่อเป็นพลาสติด อาจแตกหักได้
  • กระบอกลูกลอยทั้งชุดออกมาได้แล้ว แต่ปั๊มยังไม่ออก
  • ตอนนี้มีช่องพอเอามือล้วงเข้าไปในถังได้ ผ่อนสายยางกลับเข้าถัง ใช้มือล้วงตามสายยางเข้าไปในถัง คลำไปที่โครงยึดปั๊มด้านซ้ายและด้านขวาของตัวปั๊มมีที่ล็อกติดฐาน ใช้หัวแม่มือกับนิ้วชี้บีบตัวล็อกให้หลุดจากล็อก พร้อมกับขยับยกตัวปั๊มขึ้น
  • เมื่อปั๊มหลุดจากล็อกตอนยกขึ้นจะชนถัง ให้เอียงตัวปั๊มไปทางขวาเล็กน้อยแล้วใช้มือประคองดึงสายยางและตัวปั๊มออกมา ซึ่งจะพอดีกับช่องที่เขาทำไว้
  • ทั้งชุดกระบอกลูกลอยและตัวปั๊มเบนซิน ออกมาได้ทั้งหมดแล้ว
  • น้ำมันที่ค้างอยู่ในปั๊มจะติดออกมาด้วยเล็กน้อย หากาละมังมารอง กันน้ำมันหกเลอะ
  • เบนซิน 95 ค้างอยู่ในกรองใต้ตัวปั๊ม และมีสิ่งสกปรกติดอยู่ที่กรอง
  • ช่องใส่ปั๊มขณะนี้โล่ง ไม่มีอะไรปิด เพื่อให้ปลอดภัยจากสิ่งแปลกปลอมที่อาจตกลงไป และป้องกันอุบัติเหตุต้องหาวัสดุมาปิดไว้ก่อน
  • ผมใช้แผ่นกระดาษปิดไว้

  • การตรวจสอบ เรียนรู้ชิ้นส่วนที่ถอดออก
  • พิจารณาอุปกรณ์ที่ถอดออกมา ตัวปั๊มดูจะใหม่อยู่มาก
  • ตรงที่มือจับ คือ ตัวขอล็อกที่ต้องบีบตอนถอด (มีขอล็อก 2 ข้าง ตรงข้ามกัน)
  • ด้านนี้เป็นปลายท่อน้ำมันไหลกลับถัง มีโอริงตัวเล็กสวมอยู่
  • ชิ้นส่วนตัวปั๊ม และส่วนประกอบ ยังสดใส ไม่มีชำรุด
  • กรองเบนซินที่อยู่ใต้ปั๊ม สกปรกเล็กน้อย แบบนี้ล้างทำความสะอาดได้
  • ด้านบน สายยางและปลอกคลิปรัดยังมีสภาพดี สายยางท่อน้ำมันแข็งมาก แต่ไม่มีปริแตก ถ้ายังไม่ถอดหรือไม่ขยับมากท่อจะยังใช้งานได้
  • แนะนำว่า ถ้าสายยางท่อน้ำมันแข็ง กรอบ ก็ควรเปลี่ยน เพราะอีกไม่นานจะเสีย
  • ตรวจชั้วไฟ และสภาพของสายไฟ รอยบัดกรียังใสอยู่หรือไม่ สายไฟฉนวนกรอบแตก ตัวสายผุดำหรือไม่ ตามรูปนี้มีสภาพดี
  • ขั้วไฟฟ้ามี 2 ขั้ว ดูน่ากลัวเหมือนกัน
  • ซูมดูใกล้เข้ามา น๊อตเปลือยโผล่ไว้ทั้งสองขั้ว เมื่อสังเกตให้ดีจะเห็นว่าน๊อตตัวไม่เท่ากัน ขั้วลบน๊อตตัวใหญ่กว่า
  • ที่ใกล้ขั้วจะมีเครื่องหมาย บวก เครื่องหมายลบ บอกขั้วไฟฟ้าไว้
  • ภาพนี้จะเห็นปลายท่อน้ำมันไหลกลับถัง มีคลิปโลหะรัดท่อไว้
  • ที่ปลายรูที่ติอยู่กับพลาสติกโครงตัวยึดปั๊ม มียางโอริงตัวเล็กสวมอยู่
  • สังเกตคลิปรัดสายยางท่อน้ำมัน ทำจากสแตนเลส มีคุณภาพดี เราสามารถแกะออกและนำกลับมาใช้ใหม่ได้
  • ตรวจดูสภาพภายนอกของกระบอกลูกลอยวัดปริมาณน้ำมัน
  • ตรวจดูสภาพจองสายไฟ สภาพของฉนวนหุ้มสายไฟ สภาพดีอยู่หรือไม่ ตรวจดูด้วยตา หรือถ้าสงสัยก็ใช้มิเตอร์วัด ถ้าไม่ดีสามารถเปลี่ยนได้
  • กระบอก ข้างในกลวง มีลูกลอยวิ่งขึ้นลงสัมผัสตามเส้นลวดตัวต้านทาน (ลวดเส้นเล็กมาก) ภายในกระบอก ซึ่งความต้านทานของเส้นลวด ณ ตำแหน่งที่ลูกลอยอยู่ จะถูกส่งออกมาตามสายไฟให้วงจรหน้าปัดภายนอกรับรู้ แล้วกำหนดค่าให้เข็มชี้บอกปริมาณน้ำมันที่มีอยู่ในถัง เข็มวัด FUEL จึงชี้ขึ้นลงบอกปริมาณน้ำมันให้เราได้ทราบ พอน้ำมันเหลือน้อยก็จะเตือนด้วยไฟสีเหลือง
  • ตัวสีเขียวเขียน 1K8 คือต้วต้านทาน หรือรีซิสเตอร์ (R : Resistor) ค่าความต้านทาน 1.8 k หรือ 1800 โอห์ม
  • การถอดกระบอกออก ต้องกดขอล็อก ข้างนมีสปริง ตอนใส่คืนดูให้ครบ
  • การตรวจสอบ จะทำให้เห็นสภาพของจริงของชุดปั๊มเบนซินและชุดลูกลอยที่อยู่ในถังน้ำมัน ด้วยสายตาและสัมผัส รวมถึงการใช้มิเตอร์วัด เราจะทราบว่า อะไรยังใช้ได้ อะไรที่ควรเปลี่ยนทันที อะไรที่พอใช้ได้และจะเปลี่ยนในลำดับถัดไป อะไรที่น่าจะเสียเร็วๆ นี้
  • ตัวปั๊มที่ถอดออกยังใช้งานได้ดี แต่ที่เปลี่ยนเพราะเขาประจำการมานาน ให้พักผ่อน เก็บไว้ศึกษาและเป็นอะไหล่สำรอง
  • ข้อแนะนำสำหรับท่านที่ซื้ออะไหล่มือสอง คือ
    1) ต้องดูว่าปั๊มจะหมุนส่งแรงดันน้ำมันออกได้ดีหรือไม่ และ
    2) ตรวจดูสภาพของยางกันกระเทือนด้วย แบบในภาพนี้เห็นขาดบางส่วน แต่ยังพอใช้งานได้
    3) ตรวจดูสภาพของกรองเบนซินใต้ปั๊ม
  • กรองเบนซินใต้ปั๊ม ตรวจดูรูตะแกรงมีอุดตันหรือไม่ ถ้ามีฝุ่นผงติด สามารถถอดออกล้างด้วยเบนซิน แล้วใช้ลมเป่าให้สะอาด แต่ไม่ควรใช้ลมแรงมาก
  • สายยางท่อน้ำมันที่ถอดออก ทั้งสองเส้น หมดสภาพ แบบนี้ต้องทิ้ง แล้วใช้สายยางใหม่เปลี่ยนแทน

  • การเปลี่ยนปั๊มเบนซิน
  • ต้องถอดสายยางท่อน้ำมันทั้งสองเส้นออกก่อน เราจะนำคลิปรัดสายยางกลับมาใช้ใหม่
  • วิธีถอดคลิป ใช้ไขควงแบนสอดเข้าไปดันตรงรอยบีบให้อ้าออก แล้วใช้ไขควงปากแบนเล็ก ค่อยๆ แงะตามรอยพับให้ปลายคลิปหลุด อ้าตัวคลิปออกจากสายยาง
  • สายยางแช่อยู่ในถังสิบปี แข็งมาก ดึงไม่ออก ต้องใช้มีดคัตเตอร์ผ่าข้างช่วย จะออกง่าย
  • สภาพที่ถอดออก ยางจะกรอบ ยางหมดสภาพ ถ้ายังไม่แตะต้องก็จะยังใช้งานได้ แต่ถ้าถอดออกแล้วจะเสียทันที
  • ถอดสายยางออกแล้ว สภาพจองท่อโลหะดูจะยังใหม่อยู่มาก
  • สายยางท่อน้ำมันสองเส้น ถอดด้านบนออกแล้ว ที่ตัวปั๊มจะต้องถอดท่อสายยางและถอดสายไฟ
  • เครื่องมือที่ต้องใช้ในการถอดขั้วสายไฟปั๊มเบนซิน คือ
  • ประแจ 8 ม.ม. สำหรับถอดน๊อตขั้วลบ
  • ประแจ 7 ม.ม. สำหรับถอดน๊อตขั้วบวก
  • ใช้ประแจเบอร์ 8 ม.ม. ถอดน๊อตขั้วลบ
  • พอน๊อตหลวมก็ใช้มือหมุนออกมา
  • ถอดขั้วต่อออก จะสังเกตเห็นว่าแหวนล็อกอยู่ข้างล่าง
  • น๊อตและแหวนล็อกที่ถอดออก ตัวซ้ายของขั้วลบ (ใหญ่กว่า) ตัวขวาของขั้วบวก (เล็กกว่า)
  • ขั้วไฟฟ้าทั้งสอง รูไม่เท่ากัน เขาออกแบบไว้ดี เวลาใส่กลับยังไงก็ไม่ผิด เพราะต้องใส่ตรงขั้วที่ถูกต้องเท่านั้นจึงจะใส่ได้ ดังนั้นไม่ต้องกลัวว่าจะใส่ไม่ถูก เรียกว่าหลับตาใส่ยังไม่ผิดเลย ... ง่ายมาก
  • ต่อไปต้องถอดโครงพลาสติกที่ใช้ยึดด้านนอกออก สังเกตว่าตัวนอกกับตัวในยึดเข้าด้วยกันผ่านยางกันกระเทือน 4 จุด
  • จับชุดปั๊มพิจารณาโครงนอก หาตำแหน่งยางกันกระเทือน
  • ค่อยๆ ขยับ แงะเล็กน้อย ให้ยางกันกระเทือนออกจากล็อก แล้วดันโครงนอกขึ้น พอพ้นล็อกทั้ง 4 จุด ก็เอาตัวโครงนอกออกได้
  • ตัวโครงนอกที่ใช้ยึด ถอดออกมาแล้ว เราจะติดตั้งปั๊มตัวใหม่เข้ากับโครงนอกนี้ เพื่อเป็นตัวยึดกับฐานในถังน้ำมัน
  • พูดง่ายๆ คือ ต้องมีโครงตัวยึดอันนี้ จึงจะติดตั้งปั๊มน้ำมันเบนซินในถังของ E34 ได้
  • สังเกตโครงนอกที่เป็นตัวยึดปั๊มให้เข้าใจ จะเห็นขอล็อกทั้งสองข้าง เวลาถอดต้องบีบให้ขอล็อกออกแล้วยกตัวปั๊มขึ้น เวลาติดตั้งต้องบีบให้ขอล็อกเข้าที่
  • เปรียบเทียบปั๊มตัวใหม่กับตัวเก่า เหมือนกัน มียางกันกระเทือนเรียบร้อย ตรงกัน
  • สายยางท่อน้ำมันเบนซินที่ถอดออกมาทั้งสองเส้น ถูกจับขดไว้ในถังน้ำมัน นาน 15-16 ปี มันจะงออยู่ในท่านี้ตลอด จับยืดให้ตรงไม่ได้ เพราะแข็งมากๆ ทั้งสองเส้นนี้ใช้ไม่ได้ ต้องทิ้ง
  • เราจะเปลี่ยนสายยาง ใช้สายยางใหม่ โดยเราต้องวัดตัดสายยางสองเส้นยาวเท่ากัน เส้นละ 42 ซ.ม.
  • อาจจะยาวกว่านี้ก็ได้เช่น 45 ซ.ม. (ท่อสายยางบางเจ้าเขาขายเป็นฟุต เราต้องซื้อ 3 ฟุต 90 ซ.ม. ตัดครึ่งใช้ได้เลย) แต่ไม่ควรสั้นกว่า 42 ซ.ม. จะทำให้การใส่ลงในถังลำบาก
  • ขั้นต่อไปใส่สายยางเข้ากับตัวปั๊มตัวใหม่ แกะพลาสติกออก

    คำเตือน ...
    ขณะทำงานระวังกรองที่อยู่ด้านล่างตัวปั๊ม
  • ถอดจุกที่ใช้ปิดท่อน้ำมันบนตัวปั๊ม
  • เสียบสายยางท่อน้ำมันเข้ากับท่อทางออกของปั๊ม รัดด้วยคลิป ใช้คีมบีบให้แน่น ตรวจการรัดคลิปให้มั่นใจ ตรงนี้มีแรงดันน้ำมันออกสูง (3.5 bar.)
  • ผมใช้คลิปตัวเดิมเพราะเห็นว่ามีคุณภาพดีกว่า บางท่านอาจซื้อคลิปใหม่ อาจเป็นแบบขันสกรู หรือโลหะสปริง ควรเลือกแบบที่ข้างในกลมเรียบ
  • สายยางอีกเส้นหนึ่งต่อกับท่อน้ำมันไหลกลับบนโครงพลาสติก รัดคลิปพออยู่ (ไม่มีแรงดันน้ำมัน)
  • สวมโครงพลาสติกตัวยึดด้านนอกเข้ากับตัวปั๊ม ดันยางกันกระเทือนให้ลงร่องล็อก ได้ระดับเสมอกัน และสนิทแน่นทั้ง 4 จุด
  • ปลายสายยางท่อน้ำมันทั้งสองเส้นต่อกับท่อบนแผ่นโลหะปิดด้านบนถัง ดูท่อให้ตรง ท่อน้ำมันแรงดันสูงออก กับท่อน้ำมันไหลกลับถัง
  • ดูลูกศรแสดงทิศทางการไหลของน้ำมัน ลูกศรชี้ออกคือท่อน้ำมันแรงดันสูงออก ลูกศรชี้เข้าคือท่อน้ำมันไหลกลับถัง
  • ต่อขั้วไฟฟ้าของมอเตอร์ปั๊ม
  • ตรวจขันน๊อตยึดขั้วไฟฟ้าทั้งสองให้แน่น
  • จัดสายยางและสายไฟให้เรียบร้อย มัดด้วยเคเบิลไทร์ 2 เส้น มัดหลวมๆ พออยู่ ไม่ต้องแน่นเพื่อให้ยืดหยุ่นได้ตอนโค้ง
  • ตรวจความถูกต้องของสายยางท่อน้ำมัน สายแรงดันสูงถูกต้อง ตรวจการขันคลิปรัดแน่นดีทั้งสองปลาย
  • ขณะนี้ชุดปั๊มน้ำมันเบนซินและลูกลอยวัดปริมาณน้ำมันพร้อมนำไปติดตั้งในถัง
  • ที่ช่องบนถังน้ำมัน ตอนนี้ต้องหายใจเบา เนื่องจากกลัวฝุ่นจะตกลงไปและเพื่อจะไม่ต้องสูดไอเบนซินเข้าปอด
  • เอาซีลยางอันเก่าออก
  • ซีลยางตัวใหม่
  • วางซีลตัวใหม่ให้โบลต์เข้าทุกรู กดแผ่นซีลยางแนบกับถัง
  • ภาพนี้ที่บอกว่า เสียวมาก ... ตอนกดชัตเตอร์เปิดแฟลช ... กลัว บึ้ม กล้องจ่อถ่ายเพื่อต้องการเห็นว่าฐานยึดในถังเป็นอย่างไร
  • น้ำสีเขียวคือ เบนซิน 95 ระดับ 20 ลิตร
  • ตัวปั๊มจะลงไปอยู่ในช่องกลมๆ ตรงกลางฐาน ส่วนขอล็อกจะเกาะยึดตรงช่องสี่เหลี่ยมทั้งสองข้าง และตรงมุมที่เว้าไว้ให้กระบอกลูกลอยตั้งอยู่
  • การใส่กลับ ต้องหย่อนตัวปั๊มลงไปก่อน ซึ่งช่องเขาจะทำไว้พอดี ต้องบรรจงหน่อย ขยับหมุนเล็กน้อยให้ลงได้
  • หย่อนสายยางท่อน้ำมันตามลงไป ให้ตัวปั๊มเข้าลงตรงกลางฐาน ดูภาพขยายถัดไป
  • ภาพนี้ตอนถ่ายก็เสียวเหมือนกัน ตั้งใจเพื่อให้ท่านผู้อ่านได้เห็นภาพที่ชัดเจนโดยไม่ต้องจินตนาการว่าปั๊มเบนซินอยู่อย่างไรในถัง ดูตรงที่ศรชี้ เราต้องเอามือล้วงลงไปบีบขอเกาะดันให้ลงล็อก ก็เป็นอันว่าติดตั้งปั๊มเบนซินเข้าที่เรียบร้อย
  • ต่อไปจะใส่กระบอกลูกลอย ต้องดึงสายยางท่อน้ำมันขึ้นมา ให้ยาวกว่ากระบอกลูกลอย พอที่จะกระบอกลูกลอยจะลงไปได้
  • ค่อยๆ เอามือดันปลายล่างกระบอกลูกลอยให้ลงช่อง อย่ารุนแรง ระวังตรงท่อเล็ก
  • หย่อนกระบอกลูกลอยลงไปในถัง บิดให้ตรงตำแหน่ง รูของแผ่นโลหะปิดบนถังตรงกับโบลต์ทุกตัว
  • ใส่น๊อตยึดแผ่นโลหะปิดบนถัง หมุนน๊อตเข้าด้วยมือจนแน่นทุกตัว แล้วใช้ประแจ 10 ม.ม. ขันน๊อตทุกตัวให้แน่น
  • ใส่สายยางท่อน้ำมันบนถัง ตรวจขันสกรูคลิปรัดสายยางให้แน่น
  • เสียบปลั๊กบนถังน้ำมันให้เรียบร้อย แน่น
  • ลองติดเครื่องยนต์ ในโหมดน้ำมันเบนซิน สตาร์ทตั้งแรกอาจยาวหน่อยเพราะต้องรอปั๊มสร้างแรงดันน้ำมันให้พอ
  • เดินเบาบ้าง เร่งเครื่องบ้าง ทดลองดู แล้วลองดับเครื่องและสตาร์ทใหม่
  • ปิดช่องที่เราเปิดออกทั้งหมด เป็นอันว่างานเปลี่ยนปั๊มเบนซินของเราก็เสร็จเรียบร้อยเพียงเท่านี้
  • อุปกรณ์ที่ถอดออก และเปลี่ยนใหม่ คือ
    1) ตัวปั๊ม
    2) สายยางท่อน้ำมัน และ
    3) ซีลยางบนถัง
  • บันทึก วัน/เดือน/ปี ระยะทางที่เปลี่ยน
  • เมื่อ 10 / 10 / 2011 ระยะทาง 163323 ก.ม.

  • เกี่ยวกับสายยางท่อน้ำมัน และข้อพิจารณาในการเลือกใช้
      ปั๊มเบนซิน (ปั๊มติ๊ก) ทำหน้าที่ดูดน้ำมันเบนซินในถัง แล้วอัดน้ำมันออกมาด้วยแรงดันสูง ประมาณ 3.5 bar หรือ 51psi. ส่งไปตามสายยางและท่อโลหะ เพื่อส่งเข้าหัวฉีด ให้เครื่องยนต์ทำงาน (เพื่อ เข้าใจ .... ระบบส่งน้ำมันเบนซิน คลิก ... อ่านการตรวจซ่อมบำรุงระบบส่งน้ำมันเบนซิน : fuel_hose-filter_replace.php)

      สายยางท่อน้ำมัน ที่อยู่ในถังน้ำมัน ทั้งสองเส้น ควรต้องทนต่อชนิดของน้ำมันที่ใช้ เช่น ทนเบนซิน 95 ได้ ทนเบนซินแก๊สโซฮอลได้ โดยสายยางเส้นส่งน้ำมันออกต้องทนแรงดันสูงกว่าแรงดันที่ปั๊มอัดออกมา และเส้นน้ำมันไหลกลับเข้าถังไม่จำเป็นต้องทนแรงดันสูง แต่เพื่อความสะดวก ในทางปฏิบัติจะใช้สายแบบเดียวกันทั้งสองเส้น

      สายยางท่อน้ำมัน แบบแช่ในน้ำมัน จำเป็นไหม ...

      สายยาง SAE 30R10 เป็นสายยางพิเศษ สามารถแช่ (จุ่ม) อยู่ในน้ำมันได้ ตอนก่อนเปลี่ยนปั๊มเบนซิน ผู้เขียนก็วิตกจริต (จนเกินเหตุหรือเปล่า ... ) จึงได้ซื้อสายยางแบบนี้มาเตรียมไว้ล่วงหน้า ซึ่งเป็นการใช้เงินค่าสายยางที่สูงมากพอสมควร ด้วยความรู้สึกที่ดีครับ ... เชื่อมั่นว่าต้องดี แต่ก็ไม่ดีตรงที่จ่ายแพง (ฟุตละ 1300 บาท เราต้องซื้อ 3 ฟุต)

      แต่ .... หลังจากถอดปั๊มและถอดสายยางเก่าออกมา มีความเห็นว่าไม่จำเป็นต้องใช้สายยางแบบแช่ในน้ำมัน เพราะสายยางเดิมที่ใช้ในถังซึ่งใช้งานมาแล้ว 15-16 ปี ก็เป็นสายยางแบบเดียวกับสายยางที่ใช้นอกถัง คือนอกถังกับในถังใช้เหมือนกัน เมื่อได้พิจารณาองค์รวมแล้ว เห็นว่าเชื้อเพลิงหลักที่ใช้คือ LPG ใช้น้ำมันเบนซินเป็นเชื้อเพลิงรอง โอกาสที่เราจะเติมน้ำมันมากค่อนถัง (3/4) หรือเต็มถัง ไม่มีเลย อย่างเก่งก็เติมครึ่งถัง หรือไม่เกิน 50 ลิตร

      นั่นคือ เมื่อเห็นตำแหน่งของสายยางในถังแล้ว อยู่สูง พ้นระดับน้ำมัน ไม่ค่อยจะได้แช่หรือจุ่มอยู่ในน้ำมันเลย ระดับน้ำมันในถังจะต่ำกว่าสายยาง พอเห็นความจริงอย่างนี้ ท่านผู้อ่านก็น่าจะได้คำตอบแล้ว ว่า สายยางแบบแช่ (จุ่ม) ในน้ำมัน จำเป็นสำหรับรถ BMW E34 คันที่รักของท่านหรือไม่

      สายยาง R7 R9 รุ่นใหม่ๆ ที่มีขายทั่วไป ที่เราใช้นอกถัง ซึ่งสามารถทนแรงดันสูง ใช้ได้กับเครื่องยนต์หัวฉีด (MPI/FUEL INJECTION HOSE) และใช้ได้กับ Gasohal E20/E85 ราคาเมตรละไม่กี่ร้อยบาท ก็สามารถใช้ได้ดี ลองพิจารณาดูนะครับ .....

      สรุปว่า .... สายยางที่ใช้ลำเลียงน้ำมันเบนซินนอกถัง กับสายยางน้ำมันเบนซินในถัง ใช้แบบเดียวกันได้ ครับ ... ชัวร์

      สายยางเบนซิน MPI/FUEL INJECTION HOSE



      สายยางเบนซิน (J30 R7) Gasohal E20/E85





      สรุปค่าใช้จ่าย

      1) ค่าปั๊มเบนซิน (ปั๊มติ๊ก) ยี่ห้อ BOSCH 4500 บาท
      2) ค่าซีลยาง (ปะเก็น) รองแผ่นเหล็กยึดลูกลอยบนถังเบนซิน (OEM) 220 บาท
      3) ค่าสายยางท่อน้ำมัน ที่ต่อกับปั๊มเบนซินในถังของ BMW E34 ต้องใช้ 2 เส้น ขนาด 8 ม.ม. (5/16) ยาวเส้นละ 42 เซ็นติเมตร ราคาตามสายยางที่เลือกใช้

      ราคาสายยางโดยประมาณ (ข้อมูลเมื่อ xx / 10 / 2011)
      - J30 R7 (ตัวหนังสือสีขาว) 5/16 เมตรละ 70 บาท
      - J30 R7 Gasohal E20/E85 5/16 (ตัวหนังสือสีเหลือง) เมตรละ 120 บาท
      - MPI/FUEL INJECTION 5/16 เมตรละ 250 บาท
      - 30R10 สายยางพิเศษ แบบแช่ในน้ำมัน 5/16 ฟุตละ 1300 บาท


    ขอให้ทุกท่านโชคดี ...........ขับขี่รถ ปลอดภัย ทุกสถานการณ์
    มีความสุข ในชีวิต และ ในการ D.I.Y. BMW E34 นะครับ





    Homepage of GRANDFATHER : Assoc.Prof.BOONCHAT NETISAK
    Copyright © by BOONCHAT NETISAK, All Rights Reserved.


    [ BMW E34 DIY MAIN MENU ]