BMW E34 DIY Do it yourself by GRANDFATHER (Assoc.Prof. Boonchat Netisak)
Faculty of Industrial Technology, Lampang Rajabhat University, THAILAND. 52100
การตรวจซ่อมบำรุงระบบส่งน้ำมันเบนซิน
l โดย รองศาสตราจารย์บุญชัด เนติศักดิ์ (คุณปู่) l MAIN MENU l

      เข้าใจ .... ระบบส่งน้ำมันเบนซิน

  • ระบบส่งน้ำมันเบนซิน ของ BMW E34 525i ประกอบด้วยปั๊มน้ำมันที่อยู่ในถัง ทำการปั๊มน้ำมันเบนซินให้มีแรงดันสูง ส่งไปตามท่อส่ง ผ่านตัวกรองแล้วส่งต่อไปยังรางหัวฉีด น้ำมันเบนซินจะรอพร้อมฉีดที่หัวฉีดทั้ง 6 หัว มีตัวเรกุเลเตอร์ (Pressure Regulator) เป็นตัวรักษาระดับแรงดันน้ำมันไม่ให้สูงเกินไป (ควบคุมแรงดันน้ำมัน หรือกักแรงดันน้ำมัน) แรงดันน้ำมันส่วนเกินจะระบายส่งกลับเข้าถังท้ายรถ ผ่านท่อน้ำมันไหลกลับถัง ดูรูปข้างล่าง

    ด้านการส่งน้ำมัน
    ท่อส่งน้ำมัน มีน้ำมันแรงดันสูง คือ ท่อหมายเลข 1 - 2 - A - 3 - B - 4
    ชิ้นส่วนที่มีแรงดันสูง คือ กรองเบนซิน รางหัวฉีด และหัวฉีด 6 หัว
    น้ำมันในถังถูกปั๊มดูดและอัดออกมาด้วยแรงดันสูง M50=3.5 bar (51psi) / M20/M30=3 bar(43.5psi)
    ส่งเข้าท่อหมายเลข 1 เป็นท่อยาง มาเข้าตัวกรองเบนซินที่อยู่ใต้รถ
    จากตัวกรองเบนซิน เป็นท่อยางหมายเลข 2 ต่อด้วยท่อโลหะหรือแป๊บ A (pipe) เดินยาวอยู่ใต้ท้องรถ ไปโผล่ที่ห้องเครื่อง
    ต่อด้วยท่อยางหมายเลข 3 ต่อด้วยแป๊บสั้นๆ B ที่ใต้ท่อไอดีไปที่หัวเครื่อง ต่อด้วยท่อยางหมายเลข 4 โค้งไปเข้ารางหัวฉีด
    ในช่วงนี้น้ำมันจะมีแรงดันสูงพร้อมฉีด หรือพร้อมดันให้ท่อแตกได้ทุกเวลา ท่อทุกเส้นที่กล่าวมามีแรงดันสูงเท่ากัน
    สิ้นสุดแรงดันสูงที่ตัวเรกุเลเตอร์ (Pressure Regulator)

    ด้านน้ำมันกลับถัง
    ท่อน้ำมันไหลกลับถัง คือ ท่อหมายเลข 5 - C - 6 - D - 7
    ตัวเรกุเลเตอร์ (Pressure Regulator) จะเรียกว่าตัวกักน้ำมัน หรือตัวควบคุมแรงดันน้ำมัน ทำหน้าที่ระบายน้ำมันแรงดันส่วนเกินให้ไหลกลับคืนไปเข้าถังท้ายรถ เรกุเลเตอร์ทำงานด้วยแรงดูดสุญญากาศจากท่อไอดี (มีสายยางเส้นเล็ก สีดำ ต่ออยู่ใต้ท่อไอดี)
    น้ำมันที่ไหลกลับถัง เริ่มจากท่อยางหมายเลข 5 ไปเข้าท่อแป๊บสั้นๆ C ใต้ท่อไอดี ต่อด้วยท่อยางหมายเลข 6 ต่อด้วยท่อแป๊บ D ไปตามใต้ท้องรถ แล้วต่อด้วยท่อยางหมายเลข 7 ไปเข้าถัง

    การกักแรงดันน้ำมัน
    คือ การกักน้ำมันแรงดันสูงไว้ในท่อ ให้พร้อมฉีด เพื่อการสตาร์ทติดง่าย แม้ดับเครื่องยนต์แล้ว แรงดันจะยังค้างอยู่ถาวร
    ตัวที่ช่วยกักแรงดันน้ำมัน ประกอบด้วยอุปกรณ์สำคัญ 3 ส่วน คือ
    1) เช็ควาล์ว หรือวาล์วทางเดียว อยู่ที่ทางออกของปั๊มเบนซิน (ในถังน้ำมัน) ต้องสภาพดี น้ำมันไหลย้อนทางไม่ได้
    2) ตัวเรกุเลเตอร์ (Pressure Regulator) สภาพดี มีท่อสุญญากาศต่อกับท่อไอดีอย่างสมบูรณ์
    3) ระบบที่ไม่รั่ว (ท่อยาง แป๊บ ข้อต่อ หัวฉีด)

    ส่วนที่เสียบ่อยและต้องดูแล
    1) ท่อยาง และข้อต่อ ต้องดูแล ตรวจสอบประจำ ดูการรั่ว การซึมของน้ำมัน ใช้ตาดู การดมกลิ่น
    2) กรองเบนซิน หากอุดตัน จะทำให้แรงดันน้ำมันไม่พอฉีด เครื่องยนต์อาจเดินไม่เรียบ หรือเร่งเครื่องไม่ได้

    BMW E34 ระบบส่งน้ำมันเบนซิน มีท่อสายยาง 7 เส้น คุณได้ตรวจดูทุกเส้น หรือยัง ... ?



   No problem, We can do, Please continue ............ this DIY.
   [upLoad on 05/11/2010]


แนะนำให้อ่าน เรื่องที่มีแนวปฏิบัติที่เกี่ยวข้องกัน

[1] การเปลี่ยนไส้กรองเบนซิน (Fuel Filter Replacement)
[2] การเปลี่ยนท่อเบนซิน (Fuel Hose Replacement)
[3] ท่อเบนซินแตก.... น้ำมันไหลนองพื้น
[4] การเปลี่ยนปั๊มน้ำมันเบนซิน (ปั๊มติ๊ก)

ระบบท่อน้ำมันเบนซินในห้องเครื่องยนต์
  • ดูระบบท่อน้ำมันเบนซินในห้องเครื่องยนต์
  • ท่อ 3 และ ท่อ 4 มีแรงดันเบนซินสูง ต้องดูแลเป็นพิเศษ อาจแตก รั่วซึม บ่อยๆ
  • ท่อ 5 ท่อ 6 เป็นท่อน้ำมันไหลกลับถัง ท่อ 5 จะเสียบ่อย เพราะได้รับความร้อนสูงจากเครื่องยนต์ ท่อ 6 ไม่ค่อยเสีย
  • ตำแหน่งของท่อ 3 4 5 6
  • ท่อ 3 และท่อ 6 ส่วนบน เราตรวจดูการรั่วซึมตรงรอยต่อ ท่อ 3 จะรั่วบ่อย
  • ท่อ 3 และท่อ 6 ส่วนล่าง
  • ตัวอย่างท่อ 3 เบนซิน รั่วซึมตรงข้อต่อ
  • ตัวอย่างท่อ 3 ผิวนอกแตกลาย ยังไม่รั่ว
  • ดูท่อ 4 ที่หัวเครื่อง มีท่อหายใจ หรือท่อระบายไอน้ำมันเครื่องบังอยู่
  • เอาท่อหายใจออก เพื่อให้เข้าถึงท่อ 4 ง่าย ตรวจเห็นได้ชัด
  • ท่อ 4 อยู่ใกล้เครื่อง ได้รับความร้อนสูงจากเครื่องยนต์ ประกอบกับมีเบนซินแรงดันสูงอยู่ภายใน อาจแตก รั่วได้บ่อย
  • ดูท่อหมายเลข 5 อยู่ด้านหลังเครื่อง ต่อออกจากรางหัวฉีด บนเรกุเลเตอร์
  • ท่อหมายเลข 5 สภาพตอนที่ยังดีๆ อยู่ ไม่มีรั่วซึม
  • ท่อหมายเลข 5 สภาพตอนที่มีน้ำมันเบนซินรั่วซึม
  • หลังจากเปลี่ยนครั้งที่แล้ว ประมาณ 3 ปีครึ่ง

    [คลิก ... เพื่อขยายภาพ]


  • ระบบท่อน้ำมันเบนซินท้ายรถ
  • ระบบท่อน้ำมันเบนซินท้ายรถ ประกอบด้วยท่อยาง 3 เส้น
  • ท่อ 1 และ ท่อ 7 อยู่บนถังน้ำมันลอดสายออกมาใต้ท้องรถ ท่อ 1 ส่งน้ำมันออก ท่อ 7 รับน้ำมันกลับเข้าถัง
  • ดูลูกศรสีแดง ปั๊มเบนซินดูดน้ำมันส่งออกที่ท่อ 1 เข้ากรองเบนซิน ผ่านออกทางท่อ 2 เข้าท่อแป๊บ A ไปห้องเครื่องหน้ารถ
  • ดูลูกศรสีน้ำเงิน น้ำมันส่วนเกินจากห้องเครื่องหน้ารถ ไหลมาตามท่อแป๊บ D เข้าท่อ 7 ให้น้ำมันไหลกลับเข้าถัง ท่อ 7 นี้ทนมาก ผมยังไม่เคยเปลี่ยน เพราะมันยังใช้ได้
  • เพื่อที่จะเข้าถึงท่อหมายเลข 1 และหมายเลข 7
  • ในกระโปรงเก็บของท้ายรถ เลิกพรมขึ้น ที่พื้นด้านขวา มีฝาปิดช่องที่จะเข้าถึงท่อน้ำมันเบนซิน
  • ไขสกรู 5 ตัว หัวแฉก แงะฝาปิด เปิดออก
  • รถ E34 อยู่มาตั้ง 15 ปีกว่า เพิ่งจะได้โอกาสเปิดออกวันนี้
  • ท่อหมายเลข 1 เป็นท่อยาง มีน้ำมันแรงดันสูงส่งออกจากถัง
  • ท่อหมายเลข 7 เป็นท่อยาง รับน้ำมันไหลกลับเข้าถัง
  • ตัวปั๊มเบนซินแช่อยู่ในถัง เรามองไม่เห็น ถ้าต้องการเปิดก็คลายน๊อต เปิดแผ่นกลมๆ ออก
  • ลูกศรแสดงทิศทางการไหลของน้ำมัน
  • สีแดง แรงดันสูง ไหลออกจากถัง
  • สีเขียว แรงดันต่ำ ไหลกลับเข้าถัง
  • ตรวจที่รอยต่อ ที่คลิปรัดสาย มีคราบเบนซินรั่วซึมหรือไม่
  • ท่อหมายเลข 1 มีแรงดันน้ำมันสูง ใช้เข็มขัดมีสกรูขัน เน้นดูพิเศษคือสายเส้นนี้
  • ท่อหมายเลข 7 ใช้คลิปแบบหนีบ เราสามารถเปลี่ยนเป็นแบบเข็มขัดขันสกรูได้
  • ถ้าไม่พบอะไรผิดปกติ ไม่รั่วซึม ไม่ต้องยุ่งกับมันก็ได้
  • ท่อหมายเลข 1 ลอดลงมาใต้รถ ต่อเข้ากับกรองเบนซิน
  • ท่อหมายเลข 2 ต่อออกจากกรองเบนซิน ไปต่อกับแป๊บโลหะ
  • มองเห็นท่อหมาข 7 ด้านใน
  • ตรวจดูท่อหมายเลข 1
  • ผิวแตก ยังไม่มี รั่ว ซึม ยังใช้งานได้ แต่น่าจะต้องเปลี่ยน อายุของสายยางนี้เท่ากับอายุรถ
  • ตรวจที่ท่อหมายเลข 2 มีการรั่วซึม เบนซินไหลเป็นคราบที่ตัวไส้กรอง และผิวท่อก็แตกปริ
  • ที่ปลายท่อหมายเลข 2 ที่ต่อกับแป๊บ มีการรั่วซึม เบนซินไหลเป็นคราบ
  • ท่อหมายเลข 7 ที่ต่อกับแป๊บให้น้ำมันไหลกลับ ยังดี ไม่มีรั่วซึม
  • ขยายดูน้ำมันรั่วให้ชัดๆ

  • เตรียมอะไหล่และเครื่องมือ
  • เตรียมสายยางท่อน้ำมัน
  • และไส้กรองเบนซิน
  • ขนาดรูใน 5/16 นิ้ว (8 mm.) เป็นสายที่ทนแรงดันสูง ทนเบนซิน
  • รถผมเติมเบนซิน 95 ใช้ สายยาง MPI/FUEL INJECTION HOSE (ราคาเมตรละ 250 บาท)
  • ถ้าต้องการเปลี่ยนทั้งระบบ ทุกเส้น ควรซื้อสายยางท่อน้ำมันยาว 2.5 เมตร เปลี่ยนแล้วมีเหลือไว้เป็นอะไหล่

    หมายเหตุ
    ถ้าเติมแก๊สโซฮอล์ ก็ต้องใช้สายยางแบบที่ทนแก๊สโซฮอล์ได้ คือ SAE J30R9

  • ไส้กรองเบนซินใหม่



    หมายเหตุ
    เครื่องมือที่ใช้ ให้คลิกเข้าไปดูที่ --->>การเปลี่ยนไส้กรองเบนซิน (Fuel Filter Replacement) ---<<

  • การเปลี่ยนท่อสายยางเบนซินและไส้กรอง
  • ดึงฟิวส์ หมายเลข 23 ออก เพื่อตัดวงจรไฟที่เข้าปั๊มเบนซิน
  • สตาร์ทเครื่องยนต์ โดยปั๊มเบนซินไม่ทำงาน ใช้เฉพาะน้ำมันที่ค้างอยู่ในท่อ เดินเบาไว้ ปล่อยให้แรงดันน้ำมันลดลงจนเครื่องดับเอง แล้วจึงปิดสวิตช์กุญแจ
  • ตอนนี้น้ำมันในท่อที่ค้างอยู่ จะมีแรงดันไม่มาก เวลาเราถอดสายน้ำมัน จะไหลออกมาแบบธรรมดา ไม่พุ่งปริ๊ด
  • ถอดไส้กรอง และถอดสายยางเก่าออก ท่อ 1 และท่อ 2
  • ท่อ 1 และท่อ 2 ที่ถอดออก เป็นสายยางที่มากับรถตั้งแต่โรงงานประกอบ (ปี 1995) ยังไม่เคยเปลี่ยน
  • สภาพของท่อ 1 ผิวปริแตก เนื้อยางแข็ง กรอบยุ่ย
  • ปลายสายด้านที่ต่อกับรองเบนซิน หลังถอดออกมีสภาพตามที่เห็น
  • ท่อ 1 เดิมๆ ที่ถอดออก โค้ด 8x13 BMW 25 95
  • ขนาดความโตรูใน 8 mm. ความโตผิวนอก 13 mm.
  • ไส้กรองเบนซินตัวเก่า (เปลี่ยนเมื่อ 27/3/2007)
  • อายุใช้งานมาแล้ว 3 ปีเศษ ยังไม่ตัน
  • ตัดสายยางใหม่ให้ยาวเท่ากับท่อสายยางเก่า
  • ท่อ 2 ยาว 19 cm.
  • ไส้กรองเบนซิน เขียน วัน/เดือน/ปี และเลขระยะทาง ที่เปลี่ยน ไว้บนตัวไส้กรอง เอาไว้ดูในอนาคต
  • ใส่ท่อ 2 เข้ากับไส้กรองเบนซินด้านน้ำมันออก
  • ใส่ปลอกรัดตัวไส้กรองและติดตั้ง ขันน๊อตให้แน่น
  • ใส่สายยางท่อ 2 เข้ากับท่อแป๊บ
  • ท่อ 1 (เก่า) บนถ้งน้ำมัน ถอดออก
  • ท่อ 1 (ใหม่) สอดลงไปข้างล่าง ตอนสอดเอาเทปพันอุดรูเพื่อป้องกันสิ่งสกปรกเข้าท่อ
  • ต่อท่อ 1 (ใหม่) เข้ากับท่อทางออกบนถังน้ำมัน ขันปลอกรัดให้แน่น
  • ปลายอีกด้านของท่อ 1 ต่อเข้ากับกรองเบนซินที่ใต้รถ
  • ท่อเบนซิน (ท่อ 1 และท่อ 2) และไส้กรองเบนซินที่เปลี่ยนเรียบร้อยแล้ว
  • ลูกศรสีแดง แสดงทิศทางการไหลของน้ำมันเบนซินแรงดันสูง
  • ท่อ 7 ลูกศรสีเขียว น้ำมันเบนซินไหลกลับถัง ยังใช้ท่อเก่า ไม่ได้เปลี่ยน
  • หลังจากนี้ ไปทำการถอดท่อสายยางน้ำมันเบนซินในห้องเครื่องยนต์ ที่ต้องการเปลี่ยน ได้แก่ ท่อ 3 4 5 และ 6
  • ตัดท่อสายยาง แต่ละเส้นยาวเท่ากับเส้นเก่าที่ถอดออกมา
  • ตัวอย่างความยาวท่อสายยาง ดังข้างล่าง
    • ท่อ 1 ยาว 45 CM. (45 - 47 CM.)
    • ท่อ 2 ยาว 19 CM. (18 - 20 CM.)
    • ท่อ 3 และท่อ 6 ยาวเท่ากัน คือ 38 CM. (36 - 40 CM.)
    • ท่อ 4 ยาว 14 CM. (13.5 - 14 CM.)
    • ท่อ 5 ยาว 5 CM. (4.5 - 5 CM.)
  • ตัวเลขข้างหน้าเป็นความยาวที่ผมใช้ ขนาดพอดี กำลังสวย ในวงเล็บคือขนาดความยาวที่ใช้ได้ ค่าประมาณ ไม่ควรสั้นหรือยาวเกินนี้
  • ลองพิจารณาดู ... ระบบส่งน้ำมันมีความสำคัญ แม้จะใช้แก๊ส LPG ก็ควรตรวจสอบท่อสายยางน้ำมันให้ครบทุกเส้น และควรเปลี่ยนท่อใหม่ตามการชำรุดที่ตรวจพบ หรือจะโล๊ะท่อเก่าออกทั้งหมด เปลี่ยนใหม่ทั้งระบบก็จะเป็นการดี แต่ต้องชัวร์ แน่ใจว่าท่อที่นำมาเปลี่ยนต้องมีคุณภาพดีเทียบเท่าของเดิม หรือดีกว่าของเดิม

    BMW E34 ระบบส่งน้ำมันเบนซิน มีท่อสายยาง 7 เส้น คุณได้ตรวจดูทุกเส้น หรือยัง ... ?
    ถ้าสายยางเก่า ก็ตรวจถี่หน่อย ถ้าเปลี่ยนสายยางใหม่ ก็ตรวจทุกๆ 6 เดือน นะครับ

  • คำเตือน ... !
  • ในการใช้งาน อย่าปล่อยให้ถังน้ำมันแห้ง ควรมีน้ำมันในถังเสมอ เพื่อหล่อเลี้ยงปั๊มน้ำมันในถัง
  • กรณีใช้แก๊ส LPG ต้องใช้น้ำมันสตาร์ทให้เป็นปกติประจำทุกวันเพื่อให้น้ำมันหล่อเลี้ยงท่อและอุปกรณ์ในระบบ
  • กรณีใช้แก๊ส LPG หากไม่ได้ตัดวงจรไฟของปั๊มเบนซินและปล่อยให้ถังน้ำมันแห้ง ปั๊มเบนซินอาจเสียหาย เพราะทำงานโดยไม่มีน้ำมัน
  • เกี่ยวกับการซื้อสายยางท่อน้ำมัน

  • เรื่องนี้ค่อนข้างเป็นปัญหาใหญ่ เนื่องจากเราต้องซื้อตามที่ร้านอะไหล่มีไว้ขาย ซึ่งอาจไม่ตรงตามที่เราต้องการ แต่จำใจต้องซื้อมาเปลี่ยนเพราะท่อน้ำมันแตกแล้ว ในตอนซื้อ หน้าที่ของเราต้องตรวจดูว่าใช้กับเบนซินได้ และทนแรงดันได้ สูงกว่า 51 psi หรือสูงกว่า 3.5 bar มีขนาดรูในท่อ 5/16 นิ้ว หรือ 8 มิลลิเมตร ข้อมูลต่อไปนี้ จากประสบการณ์ของผมเอง อาจจะพอช่วยเป็นแนวทาง

  • ข้อมูลอักษรบนท่อยางที่บอกว่าเป็นสายน้ำมันเชื้อเพลิง (ขนาดรูใน 5/16 นิ้ว หรือ 8 ม.ม.)
    1. MPI/FUEL INJECTION HOSE : เป็นสายยางท่อน้ำมันเชื้อเพลิงที่ใช้กับระบบหัวฉีด ไม่มีรายละเอียดมาก ผู้ขายเขาบอกว่าแบบนี้ดีแล้ว ผมก็ OK ตกลงซื้อมา ปัจจุบัน รถ BMW E34 ของผมใช้สายยางตามข้อ 1 นี้ อยู่ในขั้นทดลองความทน และอายุการใช้งาน

    2. FUEL HOSE / - FUEL/OIL HOSE / - PETROL HOSE : เป็นสายยางท่อน้ำมันเชื้อเพลิง ต้องดูค่า psi ประกอบ ส่วนใหญ่บอกว่า 300 psi ผมเคยซื้อมาใช้ ร้านอะไหล่ยนต์ทั่วไปมีขาย อายุประมาณ 1-2 ปี เนื้อยางจะแข็งและรั่วซึมที่ข้อต่อ

    3. SAE J30R6 : มาตรฐานสายยางท่อน้ำมัน ใช้กับเบนซินธรรมดา ปกติผู้ผลิตเขาแนะนำเป็นสายน้ำมันแบบแรงดันต่ำ เช่น ส่งน้ำมันเข้าคาร์บุเรเตอร์ ผมเห็นว่ามี SAE ก็ดีใจรีบซื้อมา ใช้งานได้ แต่ก็ไม่ดีไปกว่าข้อ 2 อายุประมาณ 1-2 ปี เนื้อยางจะแข็งและรั่วซึมที่ข้อต่อ สายยาง SAE J30R6 ผิวนอกปริแตก เห็นได้ชัดเจน [คลิก .. ดูสายยาง SAE J30R6 ]

    4. SAE J30R7 : มาตรฐานสายยางท่อน้ำมัน ใช้กับเบนซินธรรมดา ปกติผู้ผลิตเขาแนะนำเป็นสายน้ำมันไหลกลับถัง แต่ดูแล้วทนแรงดันได้ ผมก็ซื้อมาใช้กับเครื่องยนต์หัวฉีด JZ อยู่ในรถกระบะ ก็ใช้งานได้ดี แต่ข้อมูลเรื่องความทนทานและปัญหาต้องดูไปอีกสักระยะ

    5. SAE J30R9 : สายยางท่อน้ำมันเบนซิน และ แก๊สโซฮอลล์ ใช้กับระบบหัวฉีดได้ ใช้ลำเลียงน้ำมันภายนอกถัง
    6. SAE J30R10 : สายยางท่อน้ำมันเบนซิน และ แก๊สโซฮอลล์ ต่อกับปั๊มเบนซิน แช่ในถังน้ำมันได้

    7. สายยางท่อน้ำมันเบนซิน OEM อะไหล่แท้ของ BMW มีตรายี่ห้อ BMW เป็นสายยางขนาดความโตรูใน 8 mm. ความโตผิวนอก 13 mm. แต่ละเส้นตัดความยาวพอดี มีโค้ดเขียนไว้ ตัวอย่าง เช่น
      1. 8x13 BMW 25 95 เป็นสายยางท่อน้ำมันเส้นที่ 1 ยาว 45 CM.
      2. 8x13 BMW 23 95 เป็นสายยางท่อน้ำมันเส้นที่ 2 ยาว 18 CM.
      3. 8x13 BMW 26 95 เป็นสายยางท่อน้ำมันเส้นที่ 3 หรือ 6 ยาว 36 CM.
  • หมายเหตุ

  • หนทางประหยัด และรถ E34 ก็อายุเยอะ ใช้ท่อสายยางแบบ ข้อ 1-2-3-4 ก็ได้ แต่ต้องขยันตรวจเช็ค และเปลี่ยนบ่อยหน่อย ก็ปลอดภัย และคุ้มค่าแล้ว (คุณภาพรับได้ ใช้ได้กับเบนซินธรรมดา 91-95 ไม่โซฮอลล์)
  • สายยางตามข้อ 5 - 6 ราคาค่อนข้างแพง ... SAE J30R10 ผมทดลองใช้อยู่ แบบจุ่มแช่ในถังน้ำมัน ตอนที่เปลี่ยนปั๊มเบนซิน แต่วิเคราะห์ดูแล้วไม่ค่อยจำเป็น [คลิก .. ลองอ่านพิจารณาดู การเปลี่ยนปั๊มน้ำมันเบนซิน (ปั๊มติ๊ก) ]
  • สายยางตามข้อ 7 ของ OEM จากศูนย์ ผมยังไม่เคยซื้อ แต่เรื่องคุณภาพและความทนทาน เชื่อถือได้ เพราะสายยางท่อน้ำมันที่เป็นของแท้ติดมากับรถ ทนมากๆ กว่าจะเสีย ก็ใช้งานนานกว่า 8 ปี บางเส้น เช่น ในรถ E34 ของผม สายยางน้ำมันเส้นที่ 7 ขณะนี้ 15 ปีก็ยังใช้ได้ ไม่เคยเปลี่ยน


  • ขอให้ทุกท่านโชคดี ...........ขับขี่รถ ปลอดภัย ทุกสถานการณ์
    มีความสุข ในชีวิต และ ในการ D.I.Y. BMW E34 นะครับ





    Homepage of GRANDFATHER : Assoc.Prof.BOONCHAT NETISAK
    Copyright © by BOONCHAT NETISAK, All Rights Reserved.


    [ BMW E34 DIY MAIN MENU ]