l โดย รองศาสตราจารย์บุญชัด เนติศักดิ์ |
l
MAIN MENU
l
|
|
ปั๊มน้ำ ... Water Pump ...
ที่มาและปัญหา ... ปั๊มน้ำ ของผม
เมื่อเป็นผู้สูงอายุ ... ก็ต้องเล่าความหลัง ย้อนอดีตไปเมื่อเดือน มกราคม 2548 ผมกับบิ๊กสปอนด์เซอร์ วางแผนจะขับรถยนต์ไปท่องเที่ยวแบบตะลอนทัวส์ซักอาทิตย์ จึงเตรียมการ ... ดูแผนที่ แล้วทำกำหนดการเดินทาง กำหนดระยะทางต่อวัน จุดท่องเที่ยว จุดพัก รวมระยะทางไป-กลับ ราว 1,500 ก.ม.
แผนได้รับการอนุมัติ ... ร่างกายพร้อม สปอนเซอร์พร้อม รถพร้อม .... ขนสัมภาระใส่ท้ายคุณ E34 525iA ออกเดินทางมุ่งสู่ที่ราบสูงทันที มีความหวัง มีความสุขในใจรออยู่เต็มเปี่ยม เพียบแปร้... ที่จะได้ไปเที่ยวกับ ....รถและคน ที่เรารัก
มันเป็นธรรมดาของคน ... ที่มีกิ๊ก ขออภัยพิมพ์ผิด แก้เป็น ... ของคน ... ที่มีห่วง จะไปไหนหลายวันก็ต้องดูสิ่งที่เกี่ยวข้อง สั่งเสีย ให้เรียบร้อยก่อนไป พอขับรถออกจากบ้านไปได้สัก 4-5 ก.ม. ก็จำเป็นต้องลงไปทำธุระสั่งเสียดังว่า จึงจอดรถ เข้าเกียร์ P ดึงเบรกมือไว้ ไม่ได้ดับเครื่องยนต์ มีบิ๊กสปอนด์เซอร์นั่งรออยู่ในรถ เมื่อทำธุระเสร็จกลับมาที่รถ บิ๊กสปอนด์เซอร์บอกว่า ได้ยินเสียงอะไรแปลกๆ อาจเป็นที่เครื่องยนต์ ... เอาแล้วไหมล่ะ
เปิดฝากระโปรงห้องเครื่อง หน้ารถ... ฟังเสียง เสียงที่ดังเป็นแบบเสียงเสียดสีกันของโลหะ ดัง ... อี๊ด ๆ ๆ ๆ ... ถ้าเร่งเครื่อง มันจะดังอี๊ดถี่ขึ้น กะประมาณตัวชิ้นส่วนที่ให้เสียงดังออกมา ลองปิด-เปิดแอร์ว่ามันหายดังไหม ปรากฏว่าไม่เกี่ยวกับแอร์หรือคอมแอร์ ไม่ใช่เสียงจากไดชาร์จ คือตำแหน่งที่มาของเสียงมันอยู่สูงขึ้นมาประมาณกลางๆ หน้าเครื่องยนต์ ซึ่งตรงนี้ที่สายพานฉุดก็คือปั๊มน้ำ ผมจึงสัยว่าปั๊มน้ำน่าจะมีปัญหา ซึ่งเป็นเรื่องใหญ่ของเครื่องยนต์ สรุปว่า จะใช้เจ้า E34 เดินทางไกล ... ไม่รอดแน่ๆ (ตายระหว่างทาง ... )
เลี้ยวรถกลับ ... เปลี่ยนรถคันใหม่ เดอะ โชว์ มัสต์ โก ออน หยุดไม่ได้ครับ วางแผนตั้งนานจะล้มเลิกตะลอนทัวส์ง่ายๆ คงไม่เข้าท่า จึงเปลี่ยนเอารถอีกคันไปเที่ยวจนจบตามที่ตั้งใจไว้ แต่ขณะขับรถไปตามที่ต่างๆ ผมก็คิดถึงว่าจะซ่อมเจ้า E34 อย่างไร ที่ผมสงสัยว่าปั๊มน้ำจะเสียนั่น ... เสียจริงไหม ถ้าความสังสัยของผมไม่ถูก จะซ่อมตรงไหนต่อไปจึงจะดี .... คิด ๆ ๆ ๆ .. อย่างไรก็ตามผมก็ได้เที่ยวจนจบรายการ และกลับอย่างปลอดภัย
ตัดสินใจ ... รื้อเครื่องยนต์ เมื่อผมกลับถึงบ้าน วันรุ่งขึ้นก็ไปดู E34 รีๆ รอๆ จะเอาไงดี (วะ) กล้าๆ กลัวๆ เพราะไม่เคยซ่อม
ไม่เคยถอดมาก่อน คู่มือก็ไม่มี ไอ้ที่สงสัยจะถูกหรือเปล่าก็ไม่รู้ ... เอาละ ตัดสินใจ... ลุย ..!! กว่าจะเข้าถึงปั๊มน้ำได้ก็ทุลักทุเล ตอนนั้นยังถอดสายพานไม่เป็น งัดสายพานจนพูลเล่ย์แตก เมื่อเข้าถึงปั๊มน้ำได้ ถอดน๊อตปั๊มน้ำเสร็จ ดึงปั๊มไม่ออก กว่าจะเอาออกได้ก็ต้องใช้ปัญญาแก้ปัญหา จึงจะเอาออกมาได้ ซึ่งก็เป็นไปตามที่สงสัย คือ ... ปั๊มน้ำเสียจริง เอามือหมุนไม่ได้ ฝืดมากๆ ก็นับว่าโชคดีอีกนั่นแหละ ... ที่เจอปัญหาก่อนการเดินทาง ถ้าไม่เปลี่ยนรถ ขืนขับไปก็น่าจะตายอยู่แถวๆ ภูเขา อำเภอเด่นชัย จังหวัดแพร่ ซึ่งอาการนี้ ... ลากอย่างเดียวครับ
จุดเริ่มต้น BMW E34 DIY
หลังจากผมได้เปลี่ยนปั๊มน้ำ ของ E34 เมื่อ ม.ค. 2548 ทำให้มั่นใจมากว่า "ทุกอย่างทำได้ ด้วยตัวเอง" ไอแคนดู จึงได้ศึกษา หาตำรา คู่มือ BMW E34 เข้าเวปไซต์ หาเครื่องมือที่จำเป็น และเริ่มถ่ายภาพ บันทึกการซ่อม เก็บข้อมูลทุกครั้งที่ผมซ่อมรถของผมเอง ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการทำ BMW E34 DIY เผยแพร่สู่สาธารณะ ณ ตรงนี้ครับ
|
|
ศึกษาชิ้นส่วนของ ... ปั๊มน้ำ ในเครื่องยนต์ M50
|
โปรดดูภาพด้านขวา
- หมายเลข 1 คือ ตัวปั๊มน้ำ (เปลี่ยน)
- หมายเลข 2 คือ ยางโอริง (สีดำ) กันน้ำรั่ว (เปลี่ยน)
- หมายเลข 3 คือ น๊อตยึดปั๊มน้ำ 4 ตัว (ใช้ตัวเดิม)
หมายเหตุ
หมายเลขอื่นๆ 4 - 10 เกี่ยวกับเทอร์โมสตัต
|
BMW E34 525i WATERPUMP - THERMOSTAT Reference Sourse; http://www.realoem.com/bmw/
|
|
ขั้นตอน การเข้าถึง และถอดปั๊มน้ำ ... ตัวเก่าออก
|
|
เข้าถึง .... ตัวปั๊มน้ำ
ก่อนอื่นต้องเคลียร์ เพื่อเปิดทางเข้าถึงปั๊มน้ำ
ต้องถอดพัดลมหน้าเครื่อง ถอดสายพาน
และถอดพูลเล่ย์ปั๊มน้ำ
เอาแบบนี้ก็แล้วกัน ต้องดูที่ของจริงครับ อะไรที่เกะกะ ขวางการทำงานก็ถอด
(คลิ๊ก ดูวิธีถอดพัดลมหน้าเครื่อง)
(คลิ๊ก ดูวิธีถอดสายพาน)
หมายเหตุ ...
พูลเล่ย์ปั๊มน้ำ ถอดหลังจากตรวจสอบก็ได้
น้ำระบายความร้อนไม่จำเป็นต้องเปิดทิ้ง จะให้ไหลออกตอนถอดปั๊มก็ได้ ซึ่งตอนซ่อมเสร็จจะได้ไม่ต้องเติมน้ำมาก
ทำตอนเครื่องเย็นเท่านั้น ... นะครับ
|
 |
ตรวจสอบ .... ปั๊มน้ำ
ทดลองเอามือจับหมุนดู ว่าหมุนได้ไหม คล่องไหม ฝืดไหม
ถ้าหมุนได้การหมุนมันเรียบไหม มีสะดุด เสียงดัง หลวมโยกคลอนหรือเปล่า
ดูรอบๆ ฐานของปั๊มว่ามีน้ำรั่วซึมหรือเปล่า
อาการ ... ปั๊มน้ำของผม
หมุนด้วยมือ ไม่เคลื่อนที่เลย หมุนไม่ได้
ตอนติดเครื่อง สายพานฉุดหมุนได้ แต่มีเสียงดัง อิ๊ด ๆ ๆ
น้ำไม่รั่วซึม ไม่โยกคลอน
สรุปว่า ... มันหมุนไม่ได้และร้อง อิ๊ด ๆ เสียแน่นอน ... ถอด ๆ ๆ ๆ
|
 |
ถอด .... ตัวปั๊มน้ำ
มีน๊อตยึดฐานปั๊มน้ำติดกับเครื่องยนต์ 4 ตัว ด้านซ้าย 2 ตัว กับด้านขวาอีก 2 ตัว
ใช้ประแจแหวนจะถอดง่าย เบอร์อะไรจำไม่ได้แล้วครับ เพราะงานนี้ผ่านไปเกือบ 4 ปีแล้วตอนที่เขียน
ที่หัวน๊อตอาจมีฝุนติดหนา ให้แคะออกก่อน เดี๋ยวใส่ประแจไม่เข้า
|
 |
อีกข้าง ถอดน๊อตยึดฐาน 2 ตัว ถอด ๆ
เมื่อถอดน๊อดยึดปั๊มน้ำออกหมดแล้ว แต่ตัวปั๊มยังแน่น ไม่มีท่าทีว่าจะดึงออกได้ ที่แคบมาก
|
 |
ทำเครื่องมือ .... ดึงปั๊มน้ำออก
(ข้าม 3 รูปนี้ไปอ่าน Update เลยก็ได้ เพราะไม่จำเป็นต้องทำเครื่องมือ ตอนที่ผมถอดยังไม่มีความรู้พอ จึงสร้างเครื่องมือช่วยถอด นำเสนอไว้เพื่อเป็นประวัติศาสตร์ ว่าครั้งหนึ่งเคย NGO)
สเก็ตแบบเครื่องมือ ด้วยแนวคิดจะเอาไม้ทำง่ายๆ แล้วใช้เกลียวของน๊อตตัวผู้ (Bolt) ค่อยๆ หมุนเกลียวดึงตัวปั๊มออกมาให้สมดุล ออกมาตรงๆ
รู 4 รูนั้นพอดีกับรูของด้านหน้าปั๊มน้ำ ถ้าใช้ไม้รองสูงสัก 10 ซ.ม. แล้วขันเกลียวดึงตรง 4 รูนี้ ปั๊มจะออกมา นี่เป็นทฤษฎี ... นะครับ
|
 |
ภาคปฏิบัติ ... หาไม้แบนยาวสัก 25 ซ.ม. เจาะรูตามแบบ แต่หาไม่ได้ ที่ได้เล็กไปหน่อย แต่ก็น่าจะใช้ได้ เจาะ 2 รูก็พอ
ใช้ไม้สี่เหลี่ยมยาว 10 ซ.ม. อีก 2 แท่ง เป็นตัวรอง
|
 |
ตอนถอดก็ทำตามแนวคิดที่ออกแบบไว้ ค่อยๆ หมุนเกลียว 2 ข้าง ทะแยงมุมกันดึงตัวปั๊มออกมาให้สมดุล
ผลทางปฏิบัติสอดคล้องกับทฤษฎี ... ผมสามารถถอดปั๊มน้ำออกมาอย่างนิ่มนวล ด้วยโบลต์เพียง 2 ตัวเท่านั้น ... ครับ
หมายเหตุ ....
โปรดระวัง ... ตอนดึงปั๊มออก มันจะชนกระแทกกับหม้อน้ำ
|
 |
Update [5 May 2009] การถอดตัวปั๊มออกง่ายๆ ไม่ต้องทำเครื่องมือ
การถอดปั๊มน้ำนี้ ความจริงง่ายมาก เยอรมันเขาออกแบบไว้ดีเยี่ยม เขาเตรียมรูน๊อตไว้แล้ว เพียงแค่เราเอาน๊อตตัวผู้ที่ยึดฟรีพัดลมที่ถอดออก ขันเข้ากับรูตรงกลางทั้งสองข้างของตัวปั๊มน้ำ ปลายน๊อตจะดันตัวปั๊มน้ำให้ขยับออกมาเอง
ตอนที่ผมถอดปั๊มน้ำออกเปลี่ยนผมทำแบบที่นำเสนอไว้ในตอนต้น ยอมรับว่าไม่รู้มาก่อน พอตอนหลังได้อ่านคู่มือ จึงไปเอาปั๊มตัวเก่ามาดู ทดลองเอาน๊อตตัวผู้มาขันดู ถึงบางอ้อ .... แท้จริงมันง่ายมาก โถ .... งอ สระ โอ ....ไม้เอก .. นำหน้า มาก่อนอีกแล้ว
|
 |
น๊อตตัวผู้ที่ยึดฟรีพัดลม 4 ตัว ถอดออกแล้วเอามาใช้งาน 2 ตัว
เอาขันเข้าในรูด้านข้าง ซ้าย-ขวาของตัวปั๊มน้ำ
อาจหาน๊อตใหม่ที่ยาวหน่อยมาใช้ก็ได้ ประมาณนิ้วครึ่ง
ขันเกลียวน๊อตเข้าให้ปลายน๊อตทะลุโผล่ไปยันเครื่องยนต์ ตัวปั๊มน้ำจะถูกดันออกมา
|
 |
รูตรงกลางนะครับ ดูให้ชัดๆ
ตอนแรกก็สงสัยอยู่ว่า เขาทำรูไว้ 6 รู ไฉนจึงยึดน๊อตแค่ 4 ตัว
ที่แท้เขาวางแผนการถอดด้วยรูตรงกลางไว้เรียบร้อยแล้ว
|
 |
ใช้ปะแจเบอร์ 10 mm. ขันเข้าให้ปลายน๊อตทะลุไปดันเครื่องยนต์ซึ่งเขาทำบ่ารับไว้แล้ว
ตัวปั๊มน้ำจะขยับออกมา เราขันน๊อตทั้ง 2 ข้าง
เมื่อปั๊มน้ำขยับออกเราก็สามารถเอาตัวปั๊มน้ำออกมาอย่างง่ายดาย
กว่าจะรู้วิธีนี้ ก็เสียค่า เอ็นจีโอ ไปพอสมควร ละ ขอรับ ...
** หมายเหตุ ภาพ 4 ภาพช่วงนี้ ถ่ายสาธิตให้เห็นขั้นตอน เพื่อการ Update เท่านั้น
|
 |
ถอดปั๊มน้ำออกแล้ว
ขณะถอด จะมีน้ำหล่อเย็นไหลออกมาด้วย ราดเครื่องลงไป
|
 |
มองดูข้างใน ยังสภาพ ... ใช้ได้ มีน้ำหล่อเย็นขังอยู่
เช็ดทำความสะอาดที่ขอบ และรอบๆ
|
 |
ตัวปั๊มน้ำ ที่ถอดออกมา
|
 |
ชิ้นส่วนสำคัญที่กันน้ำรั่ว คือซีลยางกลม โอริง
ชิ้นส่วนทั้งสองนี่แหละ ที่จะต้องเปลี่ยน
|
 |
ดูที่ใบพัดของปั๊มน้ำตัวเก่า มันเป็นไฟเบอร์
ก็มีข้อดีคือน้ำหนักเบา แต่มันก็อาจจะไม่ทน ซึ่งจะเห็นรอยร้าวที่แกน
ตัวนี้ระบบแบริ่งเสียก่อน ใบพัดไฟเบอร์ยังใช้ได้
|
|
เตรียมอะไหล่ และทำความเข้าใจ ปั๊มน้ำ ... ตัวใหม่
|
เตรียมชิ้นส่วนอะไหล่
- ปั๊มน้ำ (Water Pump) ตัวใหม่เอี่ยม 1 ตัว
- ตอนซื้อ บอกที่ร้านอะไหล่ว่าใช้กับเครื่องยนต์ M50 ของ BMW
พร้อมโอริง ซึ่งเขาจะให้มาพร้อมกันในกล่อง
- ของผมระบุว่าเอาแบบใบพัดเป็นโลหะ ไม่เอาใบพัดไฟเบอร์
- ยี่ห้อ ... ผมไม่ได้ระบุ เพียงแต่ดูว่ารูปร่างเหมือนของเดิม ก็ OK
|
|
- ตรวจรายละเอียดที่ข้างกล่อง ปั๊มน้ำอาจใช้ได้กับรถหลายรุ่น
- ต้องตรงกับ ยี่ห้อรถ รุ่น ปี เครื่องยนต์ ตรงกับรถของเรา
|
|
- ตรวจดูต้นตอ แหล่งที่ผลิตอะไหล่
- ถ้าเป็นแบบนูน แหล่งผลิตจะเกิดขึ้นขณะหล่อโลหะ ทำต้นแบบยากหน่อย
- ถ้าเป็นแบบตอกอักษรให้ปุ๋ม จะทำภายหลังการหล่อ
|
|
- เอาตัวปั๊มน้ำออกมาตรวจความเรียบร้อย ต้องมีโอริง 1 วง
- ทดลองหมุน ต้องหมุนได้
- ใบพัดไม่แตก ร้าว หมุนตรง ไม่เบี้ยว
- เกลียวหน้าที่มีพลาสติกครอบ ต้องพอดีกับเกลียวของฟรีพัดลม
|
|
- เทียบกัน ตัวใหม่ กับตัวเก่า รูปร่างโดยรวมต้องเหมือนกัน
- รูยึดน๊อตกับเครื่องยนต์ รูยึดน๊อตกับพูลเล่ย์สายพานขับ ความยาวตัวปั๊ม ขนาดความโตใบพัด เกลียวหน้า
|
|
- สีต่างกัน ไม่เป็นอะไร ถ้าอย่างอื่นเหมือนกันเป็นอันใช้ได้
|
|
|
ขั้นตอน การติดตั้ง ปั๊มน้ำ ... ตัวใหม่
|
 |
ตอนติดตั้งของใหม่เข้าไปนี้ มัน บ่ มี อี หยัง ยาก แล้ว ..... .... แม่นบ๊อ
ถอดออกมาอย่างไร ตอนใส่คืนก็ทำย้อนกัน เพียงแต่ใช้อะใหล่ตัวใหม่แทนตัวเก่า เท่านั้น
ตรงนี้ สำคัญ .... ของใหม่นี่เป็นธรรมดา เวลาใส่เข้าไปนี่ต้องฝืด ฟิตเปรี๊ยะ ... ต้องออกแรงดันเข้ามากหน่อย จึงจะเข้า
ผมช่วยหล่อลื่นเขาด้วยน้ำมันเครื่องเล็กน้อย (ย้ำ ... เล็กน้อยนะครับ) ลูบที่ผนังเบ้าปั๊มน้ำในเครื่องยนต์ ... บางๆ และลูบที่โอริง แล้วค่อยๆ ดันเข้าไป อย่ารุนแรงนะครับ เดี๋ยวจะเสียหาย
|
 |
เมื่อดันเข้าไป มันจะยังไม่สุด พอใส่น๊อตได้
ใส่น๊อตทั้ง 4 ตัว หมุนเข้าด้วยมือให้ตึงทุกตัว
ใช้ประแจขันเข้าทีละน้อย ขันทะแยง ซ้ายที ขวาที สลับกัน ขันจนทุกตัว ตึงมือ แน่น
ใส่พูลเล่ย์สายพานขับ มีน๊อตต้องขัน 4 ตัว
|
 |
ใส่สายพานหน้าเครื่อง ดูให้ตรงร่อง ใส่พัดลม
ประกอบ ใส่ชิ้นส่วนที่ถอดออก ให้ครบสมบูรณ์ทุกชิ้น
เติมน้ำหม้อน้ำ ทดลองติดเครื่องยนต์ ตรวจสอบการรั่วของน้ำ
ติดเครื่องเดินเบาไว้ เร่งเครื่องบ้าง เบาบ้าง ให้เครื่องร้อนสัก 10 นาที ระบบสายพานปกติ เสียงเครื่องยนต์ไม่มีแปลกปลอม เข็มความร้อนน่าจะชี้ไม่เกินเที่ยง จึงจะถือว่า การติดตั้ง ผ่าน ....
ถ้าทุกทำงานอย่างปกติ งานของเราก็เสร็จ รถพร้อมใช้งานแล้ว ... ครับ
|
 |
ภาพนี้ ไม่มีความเกี่ยวพันกับปั๊มน้ำ ... ดูล้อ กับยาง
...
บันทึกการเปลี่ยนปั๊มน้ำ
เมื่อ 20/01/2005 ที่ระยะทาง 88,400 ก.ม.
|
ทำเอง .... ถูกใจและภูมิใจ ....
งานนี้ ก้มๆ เงยๆ เสร็จแล้ว มีปวดหลังและเอวบ้างเล็กน้อย ... .... ครับ
|
เสร็จแล้ว ลองวิ่งทดสอบดู ทดลองใช้งานไปทางไกล หรือวิ่งในเมือง มั่นใจและหายห่วงเรื่องความร้อนขึ้น .....ไปได้เลยละครับ
very good job. |
สรุปค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยน ปั๊มน้ำ เครื่องยนต์ M50 ในรถ BMW E34 525i
ปั๊มน้ำใหม่เอี่ยม แบบใบพัดโลหะ 1,800 บาท
ราคานี้สั่งผ่านร้านอะไหล่ในลำปาง แบบสั่งตอนเย็นได้ของวันรุ่งขึ้นตอนแปดโมงเช้า เป็นธรรมดาค้าขายเขามีต้นทุน + ค่าโสหุ้ย + กำไร ถ้าซื้อเอง โดยตรงที่ กทม. ราคาคงจะต่างจากนี้
รวมค่าใช้จ่าย 1,800 บาท
(ข้อมูล ราคา เมื่อ 20/01/2005)
|
|
ของฝาก ... จากเส้นทาง R3 เชื่อม ไทย-ลาว-จีน
|
เหตุการณ์ เมื่อ ... 9 สิงหาคม 2551
- ในประเทศลาว ฝนตกมาก ๆ ๆ ๆ ๆ น้ำท่วมถนน
- น้ำ ดิน โคลน หิน ภูเขา พังทะลาย ไหลทับทาง
- ผมติดค้างอยู่ในลาวเพิ่มจากกำหนดเดิมอีก 1 วัน +1 คืน ที่หลวงน้ำทา
- รุ่งขึ้น ฝนซา น้ำลด ผมผ่านเส้นทาง R3 กลับไทย
- สงสารเขา ... เกิดสดๆ เอาไปโฮงหมอ...เข้าห้องมรสุม (ICU)
- ความน่าจะเป็น .... 1 ใน เท่าไร ... ไม่ทราบ
- ต้นไม้ โค่นลงมาจากเนินเขา ข้างทาง
- คำนวณ ความเร็ว ระยะทาง และเวลา
- ต้นไม้ และ ลดจัก (มอเตอร์ไซด์) + คนขับขี่ พอดีกัน .... เป๊ะ
- ตลอดทาง ผมภาวนา ขอให้เขารอด ...



|
แถม ... ศัพท์ภาษาลาว
ลดใหญ่ หมายถึง รถยนต์
ลดจัก หมายถึง รถจักรยานยนต์
แอ๊ดซัง หมายถึง เบนซิน
กาซวน หมายถึง โซล่า (ดีเซล)
โซกดี .... หมายถึง ลาก่อน .... โบกมือ บ๊าย ... บาย นะครับ
|
|
ข้อมูลและภาพของผู้อ่านเว็บ ฝาก ... ให้ดูเป็นประสบการณ์
|
ภาพจากผู้อ่านเว็บนี้ ส่งมาให้ดู
จาก email เมื่อตอนส่งท้ายปีเก่า 2551
(Wed 31.12.2008 18:55:52)
ผมขอเรียนปรึกษาปัญหารถ bmw ของผม ครับ ผมใช้รถ bmw e36 325ia เครื่อง m50 คิดว่าจะเป็นเครื่องตัวเดียวกันกับ e34 ของอาจารย์ครับ
ปัญหาของผมที่พึ่งพบวันนี้คือ
ผมขับรถที่ความเร็วประมาณ 160-170 โดยลากรอบและใช้ mode sport แต่แค่ระยะเวลา แค่ไม่กี่นาที ปรากฏว่าเข็มความร้อนของเครื่องได้ขึ้นไปที่ red line ผมจึงชะลอรถและจอดข้างทาง เข้าเกียร์ว่างและเดินเบา สักพักประมาณ 4-5 นาที ระดับเข็มความร้อน กลับมาที่ตำแหน่งปกติที่ประมาณ 12 นาฬิกา ผมจึงเคลื่อนรถออกไปอีก พอรอบเริ่มสูงเข็มความร้อนก้อขึ้นสูงถึง red line อีก ผมต้องวิ่งๆ จอดๆ อย่างนั้นเป็นระยะทางประมาณ 16-17 กม (โชคดีที่ไปใหนไม่ใกลบ้านมาก) จนกว่าจะถึงบ้าน
พอถึงบ้านผมรอให้เครื่องเย็นสักพัก ผมจึง check ระดับน้ำหล่อเย็น ปรากฏว่าระดับน้ำปกติ แต่ช่วงที่คลายน๊อตไล่ลม สังเกตุว่ามีตะกอนสีแดง ออกมากับน้ำ ตอนที่น้ำดันออกมา ผมจึงจัดการเปลี่ยนถ่ายน้ำในหม้อน้ำใหม่ ทำการไล่ลม ตามขั้นตอน ลองสตาร์ทเครื่อง เดินเบา เปิดแอร์ เข็มความร้อนปกติ ผมจึงลองเอารถออกวิ่ง ปรากฏว่าพอวิ่งได้ประมาณ 500 เมตร อาการเดิมกลับมาอีก คือความร้อนพุ่งขึ้น red line
ไม่ทราบว่าปัญหานี้ เป็นที่ วาล์วน้ำ หรือ ปั๊มน้ำ ครับ หรือว่า หม้อน้ำสกปรก น้ำเดินไม่สะดวก แถวบ้านก็ไม่มีอู่ที่ไว้ใจได้เลย จึงเรียนปรึกษา อาจารย์ด้วยครับว่าสาเหตุนี้ จะเกิดจากอะไร และผมจะแก้ไขอย่างไร
ลืมบอกไปว่ารถคันนี้ผมพึ่งซื้อมือสองมาได้ประมาณ 1 เดือน ครับ รถจดทะเบียนปี 1997 ครับ
ด้วยความนับถือ
อาสาฬหะ โสภณนวกุล [asarnha_itd@yahoo.com]
(084-3782022)
|
ภาพปั๊มน้ำที่ชำรุด

[Click เพื่อขยายภาพ]
3-4 วันต่อมาส่งรูปมาให้ดู
[Sat 03.01.2009 20:39:48]
ตกลง .... เจอตัวปัญหาแล้วครับ เป็นที่ .. ปั๊มน้ำ .... ครับผม สภาพตามรูปเลยครับ
ขอบพระคุณสำหรับคำแนะนำครับผม
[Tue 06.01.2009 10:07:46]
รูป อาจารย์นำไปลง web ได้เลยครับ และฝากเตือน เพื่อนๆ ที่ซื้อรถมือสองจากเจ้าของเก่ามา แล้วเจ้าของคุยว่าเครื่องเดิม ๆ ครับ ไม่เคยทำไรเลย นี่แหละน่ากลัวครับอาจารย์ เพราะอายุรถสิบกว่าปี อะหลั่ยย่อมหมดอายุแล้ว ดังนั้นจุดนี้เป็นจุดที่สมควรตรวจเช็คมากที่สุดครับ
--------------------------------------------
ขอบคุณ เจ้าของข้อมูล ที่แชร์ข้อมูลสู่สาธารณะ Uncle CHAT [05/05/2009]
|
| อัพเดต ... เปลี่ยนปั๊มน้ำครั้งที่ 2 |
เจ้า E34 ของปู่ได้รับการเปลี่ยนปั๊มน้ำครั้งแรก เมื่อ 20/1/2005 ที่ระยะทาง 88,400 km. เปลี่ยนครั้งแรกนี่เนื่องจากมันเสีย มีเสียงดังเป็นตัวบอกอาการ ตั้งใจว่าจะเปลี่ยนครั้งต่อไป เมื่อใช้รถไปอีก 8 หมื่นกิโลเมตร คือประมาณ หนึ่งแสนเจ็ดหมื่นกิโลเมตร (170,000 km.) ความตั้งใจนี้หมายความว่าจะเปลี่ยนขณะที่มันยังไม่เสีย แต่หากว่ามันเสียก่อนเวลาก็ต้องเปลี่ยนก่อน
ปั๊มน้ำถือว่าเป็นตัวสำคัญตัวหนึ่ง ในการระบายความร้อนของเครื่องยนต์ อะไหล่ที่ใช้ก็ต้องตรงรุ่น ถ้าบังเอิญเดินทางไปไหนมาไหนแล้วเกิดปั๊มน้ำเสียจะทำยังไง ร้านอะไหล่ทั่วไปคงหายาก การซ่อมบวกเวลาสั่งอะไหล่มาเปลี่ยน ก็ต้องใช้เวลาประมาณ 2 วัน เมื่อคิดถึงเรื่องนี้จึงได้สั่งปั๊มน้ำใหม่มาเตรียมพร้อมไว้ตั้งแต่ปี 2009 ราคากี่บาทจำไม่ได้แล้ว ปั๊มน้ำใหม่นี้ใส่ไว้ท้ายรถ ไปไหนไปด้วยกัน เพื่อความอุ่นใจ
เจ้า E34 วิ่งทำระยะทางต่อไป ปั๊มน้ำและระบบระบายความร้อนทำงานเป็นปกติดี จนวันหนึ่งดูที่หน้าปัด ได้ระยะทาง 179,695 km. ลองเอาระยะทางที่เปลี่ยนปั๊มน้ำครั้งแรกมาลบดู ได้ผลลัพธ์เท่ากับ 91,298 km. แปลว่าวิ่งเกินแปดหมื่นโลมาแล้ว ใกล้จะถึงแสน ถ้าคิดระยะเวลาก็ได้ 8 ปี 5 เดือน เป็นเวลาพอสมควรแล้ว ที่จะต้องปลดระวางปั๊มน้ำตัวเก่าออก เปลี่ยนปั๊มน้ำตัวใหม่เข้าไปแทนที่ แม้ว่าตัวเก่ายังใช้งานได้ดีก็ต้องตัดใจ เป็นการซ่อมแบบป้องกัน (Preventive Maintenance) ก่อนที่มันจะเสียระหว่างทาง
เปลี่ยนปั๊มน้ำครั้งที่ 1 เมื่อ 20/1/2005 ที่ระยะทาง 88,400 km. (เปลี่ยนเพราะเสีย มีเสียงดัง)
เปลี่ยนปั๊มน้ำครั้งที่ 2 เมื่อ 17/6/2013 ที่ระยะทาง 179,695 km. (ยังไม่เสีย เปลี่ยนตามระยะทาง)
รวมระยะเวลาใช้งาน 8 ปี 5 เดือน และระยะทางใช้งาน 91,298 km.
|

ปั๊มน้ำใหม่แบบใบพัดโลหะ พร้อมโอริง ใส่ท้ายรถไว้ ไปไหนมาไหนด้วยกันตลอด

ใส่โบลต์เพื่อการถอดไว้ด้วย 2 ตัว ทั้งด้านซ้าย-ขวา เวลาจำเป็นจะได้ไม่ต้องไปหา

การถอดปั๊มน้ำใช้การขันโบลต์ให้ดันตัวปั๊มออกทั้งซ้ายและขวา ซึ่งออกง่ายมาก

สภาพของปั๊มน้ำตัวเก่าที่ถอดออก ยัง OK น่าจะลุยถึงแสนกิโลเมตรได้นะครับ (แต่ก็ไม่ได้ลองเสี่ยง)

สภาพระบบน้ำระบายความร้อนภายในเครื่องยนต์ ได้เติมน้ำยากันสนิม ผนังทางเดินน้ำและสีของน้ำพอรับได้

การเปลี่ยนปั๊มน้ำคราวนี้ถอดเฉพาะสายพานหน้าเครื่อง ไม้ได้ถอดสายพานแอร์ ประสบการณ์ทำให้สามารถลดงานลงได้นิดหน่อยครับ
|
Homepage of Associate Professor BOONCHAT NETISAK
Copyright © by BOONCHAT NETISAK, All Rights Reserved.
[
BMW E34 DIY MAIN MENU
]
|
|